คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันนัดชี้สองสถานว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดการชี้สองสถาน แล้ววินิจฉัยว่า การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382ผู้ได้กรรมสิทธิ์ต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 78 โจทก์จึงต้องยื่นคำร้องขออย่างคดีไม่มีข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(1)โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเช่นนี้ เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ซึ่งทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง แม้โจทก์ไม่ได้โต้แย้งไว้ก็มีสิทธิยกขึ้นอุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24,227 โจทก์ฟ้องอ้างว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ซึ่งได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ จำเลยได้ให้คนงานของจำเลยมารื้อรั้วสังกะสีซึ่งล้อมที่พิพาทออกทั้งสี่ด้านและทำลายลานคอนกรีตในที่พิพาทของโจทก์บางส่วนเสียหาย ดังนี้แม้ขณะโจทก์ฟ้องศาลยังมิได้มีคำสั่งว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ก็ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบ เปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลากว่า 10 ปี จนได้กรรมสิทธิ์แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2529 จำเลยได้ใช้ให้คนงานมารื้อรั้วสังกะสีทั้งสี่ด้านของโจทก์ออกและทำลายลานคอนกรีตบางส่วนของโจทก์เสียหายจึงขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง ให้จำเลยทำการแบ่งแยกที่พิพาทแล้วโอนกรรมสิทธิ์ส่วนที่แบ่งแยกออกมาให้กับโจทก์ ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของและไม่ได้ครอบครองที่พิพาท ที่พิพาทเป็นของจำเลยใช้เป็นทางเดินหนีไฟของผู้อยู่อาศัยในตึกแถว ขอให้ยกฟ้อง ในวันนัดชี้สองสถานศาลชั้นต้นพิจารณาคำฟ้องของโจทก์และคำให้การจำเลยแล้วเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้จึงให้งดการชี้สองสถานและวินิจฉัยว่า การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น ผู้ได้กรรมสิทธิ์จะต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 78 กรณีของโจทก์ก็เช่นกัน โจทก์จึงต้องยื่นคำร้องขออย่างคดีไม่มีข้อพิพาทต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา188(1) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้ไม่ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์อย่างเดียวแต่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจำเลยรื้อลานคอนกรีตและรั้วล้อมที่พิพาทที่โจทก์สร้างขึ้นไว้ อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ด้วย โจทก์เสนอคดีมาเป็นคำฟ้องอย่างคดีมีข้อพิพาทจึงชอบแล้ว พิพากษากลับยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดชี้สองสถาน คดีของโจทก์จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาของศาลชั้นต้น การที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ชอบนั้น เห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้วันนัดชี้สองสถานว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดการชี้สองสถานและให้รอฟังคำพิพากษา แล้ววินิจฉัยว่า การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น ผู้ได้กรรมสิทธิ์จะต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 78 กรณีของโจทก์ก็เช่นกัน โจทก์จึงต้องยื่นคำร้องขออย่างคดีไม่มีข้อพิพาทต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 188(1) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง การวินิจฉัยเช่นนี้ เป็นการวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 24 ซึ่งทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง แม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งไว้ในศาลชั้นต้น ก็มีสิทธิยกขึ้นอุทธรณ์ในศาลอุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24, 227 ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์จึงชอบแล้ว
ที่จำเลยฎีกาว่า ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์แต่อย่างใด โจทก์จึงต้องเสนอคดีอย่างคดีไม่มีข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(1)โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ โจทก์อ้างว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โจทก์ได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์จำเลยได้ให้คนงานของจำเลยมารื้อรั้วสังกะสีซึ่งล้อมที่พิพาทออกทั้งสี่ด้าน และทำลายลานคอนกรีตในที่พิพาทของโจทก์บางส่วนเสียหาย ดังนี้ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share