คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์อุทธรณ์ว่า โจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินหลังวันสั่งจ่ายทั้งสองฉบับ ความจริงโจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีของโจทก์ในวันสั่งจ่ายที่ปรากฏในเช็คแต่ละฉบับ และว่าโจทก์ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่า ในขณะออกเช็คถึงวันสั่งจ่าย ผู้สั่งจ่ายมีเงินในบัญชีไม่พอจะใช้เงินตามเช็คนั้น เพราะยังไม่ถึงวันสั่งจ่าย แม้จำเลยจะมีเงินในธนาคาร โจทก์ก็เบิกเงินตามเช็คไม่ได้ ดังนี้อุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าวพอแปลได้ว่า โจทก์ไม่เห็นด้วยในการที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล จึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 193 แล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘…แม้อุทธรณ์ของโจทก์มิได้กล่าวมาในตอนต้นว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งอย่างไร เพียงแต่กล่าวว่าโจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลชั้นต้น จึงขออุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง โดยกล่าวว่า ที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินหลังวันสั่งจ่ายทั้งสองฉบับ ธนาคารปฏเสธไม่จ่ายเงิน และให้ไปติดต่อผู้สั่งจ่ายนั้น ความจริงโจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีของโจทก์ในวันสั่งจ่ายที่ปรากฏในเช็คแต่ละฉบับ หาได้ไปเรียกเก็บหลังวันสั่งจ่ายแต่อย่างใดไม่ และว่า การที่โจทก์ไม่สืบให้เห็นว่าในขณะออกเช็คถึงวันสั่งจ่ายนั้น ผู้สั่งจ่ายมีเงินในบัญชีไม่พอจะใช้เงินตามเช็คได้นั้น โจทก์เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำสืบเช่นนั้น เพราะอย่างไรเสียถึงแม้จำเลยจะมีเงินในธนาคารถ้าไม่ถึงวันสั่งจ่าย โจทก์ก็คงจะเบิกเงินตามเช็คไม่ได้ ตามปกติแล้วธนาคารจะไม่ยอมเรียกเก็บเงินล่วงหน้าก่อนวันสั่งจ่ายตามเช็ค โจทก์ได้นำเช็คเข้าบัญชีของโจทก์เรียกเก็บเงินในวันสั่งจ่ายทั้งสองฉบับ โจทก์เห็นว่าได้นำสืบพอที่จะรับฟังได้แล้วว่าคดีของโจทก์มีมูลพอที่จะฟ้องจำเลยได้ ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินคดีต่อไป ดังนี้อุทธรณ์ของโจทก์พอแปลได้ว่า โจทก์ไม่เห็นด้วยในการที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล ให้ยกฟ้องด้วยเหตุว่าโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าในขณะออกเช็คถึงวันสั่งจ่ายนั้น ผู้สั่งจ่ายมีเงินในบัญชีไม่พอจะใช้เงินตามเช็คได้ อุทธรณ์ของโจทก์จึงเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา193 แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น’
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

Share