แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ที่จำเลยสั่งให้โจทก์หยุดงานชั่วคราวก็เพื่อถวายการอารักขาแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ คำสั่งจำเลยที่ให้โจทก์หยุดงานชั่วคราว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายและโจทก์ย่อมต้องทราบดีอยู่แล้วในขณะทำสัญญาว่า องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ และพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เป็นประจำทุกปี ทั้งเมื่อได้รับคำสั่งให้หยุดงานชั่วคราว โจทก์มิได้ ทักท้วงหรือโต้แย้งแต่ประการใด จะถือว่าจำเลยผิดสัญญาโดยไม่จัดการ หรืออำนวยความสะดวกให้โจทก์เข้าทำงานก่อสร้างตามสัญญาเป็นการ ไม่ชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้หาได้ไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายอัน เกิดจากคำสั่งของจำเลย ดังกล่าวนั้นได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าจ้าง ค่าอุปกรณ์และค่าเสียหายจำนวน 18,198,234.78 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ชำระค่าจ้างก่อสร้างรั้ว และค่าซื้อสิ่งของตามสัญญาซื้อขายระบบสัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์รวมทั้งค่าก่อสร้างแก้ไขเพิ่มเติมพระตำหนักทั้ง 3 แห่งให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว ขณะทำสัญญาว่าจ้าง โจทก์ทราบดีอยู่แล้วว่า จะต้องหยุดงานก่อสร้างชั่วคราวในช่วงระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จประทับ ณ พระตำหนักต่าง ๆ และโจทก์ไม่ได้รับความเสียหายจากการหยุดงานชั่วคราว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า…เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2521 จำเลยได้ทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างรั้วกับสิ่งต่าง ๆ เพื่อการติดตั้งเครื่องสัญญาณเกี่ยวกับระบบสัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์ ที่พระตำหนัก 4 แห่ง คือพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์และพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยโจทก์ต้องทำงานให้เสร็จเรียบร้อยและส่งมอบงานแต่ละแห่งให้แก่จำเลยภายใน 420 วัน,330 วัน, 330 วัน และ 270 วัน ตามลำดับ นับแต่วันที่จำเลยกำหนดให้ลงมือทำงานได้ ตกลงค่าจ้างรวม 81,647,000 บาท รายละเอียดปรากฏตามสัญญาว่าจ้างเอกสารหมาย จ.3 และแบบแปลนต่อท้ายสัญญาว่าจ้างเอกสารหมาย จ.57, จ.58 และ จ.59 และในวันเดียวกันจำเลยได้ทำสัญญาซื้อระบบสัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์ 4 ชุด พร้อมด้วยอุปกรณ์สำหรับติดตั้งที่พระตำหนักทั้ง 4 แห่ง ในราคา 23,885,000 บาทรายละเอียดปรากฏตามหนังสือสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.3 เมื่อทำสัญญาดังกล่าวแล้ว โจทก์ได้ลงมือทำการก่อสร้างที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส ที่พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์จังหวัดเชียงใหม่ และที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนครตามลำดับ สำหรับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน กรุงเทพมหานคร นั้นจำเลยให้งดการก่อสร้าง และโจทก์ได้ลดราคาค่าก่อสร้างให้แก่จำเลยเรียบร้อยแล้ว ในระหว่างทำการก่อสร้างพระตำหนักทั้ง 3 แห่งจำเลยสั่งให้โจทก์แก้ไขเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมงานก่อสร้างรายละเอียดปรากฏตามเอกสารหมาย จ.7, จ.17 ถึง จ.20 และ จ.22…
ปัญหาตามฎีกาของโจทก์ข้อต่อไปมีว่า การที่จำเลยสั่งให้โจทก์หยุดทำงานในระหว่างที่โจทก์กำลังดำเนินการก่อสร้าง ถือว่าจำเลยผิดสัญญา โดยไม่จัดการหรืออำนวยความสะดวกให้โจทก์ได้เข้าไปทำงานก่อสร้างตามสัญญา เป็นการไม่ชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้ โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากคำสั่งของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 215หรือไม่นั้น เห็นว่า ที่จำเลยสั่งให้โจทก์หยุดงานชั่วคราวก็เพื่อถวายการอารักขาแต่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ คำสั่งจำเลยที่ให้โจทก์หยุดงานชั่วคราวจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายและโจทก์ก็ย่อมจะต้องทราบดีอยู่แล้วในขณะทำสัญญาว่าองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ และพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์เป็นประจำทุกปี ประกอบทั้งเมื่อได้รับคำสั่งให้หยุดงานชั่วคราวโจทก์ก็มิได้ทักท้วงหรือโต้แย้งไว้แต่ประการใด จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยผิดสัญญาตามที่โจทก์ฎีกา โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้ไม่ได้…
ปัญหาตามฎีกาของโจทก์ประการสุดท้ายมีว่า จำเลยจะต้องชดใช้ค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์และโกดังสำหรับเก็บอุปกรณ์สัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่โจทก์หรือไม่ โจทก์ฎีกาว่ามีอุปกรณ์สัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจำเลยสั่งระงับการสั่งซื้อ แต่โจทก์สั่งระงับไม่ทัน เมื่อของส่งมาถึงประเทศไทยแล้วไม่อาจนำไปติดตั้งที่พระตำหนักทั้ง 4 แห่ง เพราะจำเลยสั่งระงับการติดตั้งโจทก์จึงต้องเช่าตู้คอนเทนเนอร์และโกดังเก็บของดังกล่าวไว้ 3 เดือนเห็นว่า สัญญาซื้อขายระบบสัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์ตามเอกสารหมาย จ.3 ข้อ 4 วรรคสอง ได้กำหนดเงื่อนไขหรือวิธีการในการส่งมอบไว้ว่า การส่งมอบสิ่งของตามสัญญาซื้อขายนี้ ไม่ว่าจะมีการส่งมอบเพียงครั้งเดียวหรือหลายครั้ง ผู้ขายจะต้องแจ้งกำหนดเวลาส่งมอบแต่ละครั้งให้ผู้ซื้อทราบ โดยทำเป็นหนังสือนำไปยื่นต่อผู้ซื้อ ณ สถานที่ส่งมอบในเวลาราชการก่อนวันส่งมอบไม่น้อยกว่า3 วันทำการ พยานหลักฐานตามที่โจทก์นำสืบมาไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว หรือมีข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยว่าจำเลยจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์และโกดัง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์และโกดังให้แก่โจทก์…”
พิพากษายืน.