แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สายเดินเรือเมอสก์สาขากรุงเทพฯกับบริษัทเมอสก์ไลน์(สิงคโปร์) พีทีอี จำกัด ใช้ชื่อประกอบกิจการเป็นภาษาอังกฤษมีรูปลักษณะตัวอักษรว่า เมอสก์ไลน์ (MAERSKLINE) มีสัญลักษณ์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีฟ้ามีดาว7แฉก สีขาวอยู่ภายในเหมือนกันใบตราส่งที่ใช้ก็เหมือนกัน บริษัท ต.จ้างบริษัทเมอสก์ไลน์(สิงคโปร์) พีทีอี จำกัด ขนสินค้าจากสิงคโปร์มากรุงเทพฯ โดยทางเรือ สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯเป็นผู้ติดต่อเจ้าหน้าที่นำร่อง เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อให้เรือบรรทุกสินค้าเข้าเทียบท่า ทั้งแจ้งวันเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบ ถือได้ว่าสายเดินเรือเมอสก์สาขากรุงเทพฯร่วมกับบริษัทเมอสก์ไลน์(สิงคโปร์) จำกัด ขนส่งสินค้าโดยแบ่งหน้าที่กันทำ เมื่อสินค้าเสียหายจากการขนส่ง จำเลยทั้งสองในฐานะหุ้นส่วนของสายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนจึงต้องร่วมรับผิดด้วย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นนิติบุคคลของประเทศเดนมาร์กได้เข้าหุ้นร่วมกันตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนชื่อเมอสก์ไลน์ ประกอบกิจการรับขนส่งทางทะเล มีสำนักงานสาขาในประเทศไทยชื่อสายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ บริษัทพัทยาฟู้ด อินดัสตรีจำกัด สั่งซื้อสินค้าปลาโอจากบริษัทไตรมารีน อโซซิเอทส์ (พีทีอี)จำกัด ประเทศสิงคโปร์ โดยจำเลยเป็นผู้ขนส่งมาประเทศไทย โจทก์รับประกันภัยสินค้าดังกล่าวไว้จากบริษัทพัทยาฟู้ด อินดัสตรี จำกัดปรากฏว่าสินค้าได้รับความเสียหายเพราะตู้คอนเทนเนอร์บกพร่องไม่รักษาระดับอุณหภูมิ โจทก์ต้องใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทพัทยาฟู้ดอินดัสตรี จำกัด เป็นเงิน 1,747,663.13 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองมิใช่ผู้รับขนสินค้าพิพาทหากแต่บริษัทเมอสก์ ไลน์ (สิงคโปร์) พีทีอี จำกัด เป็นผู้ขนส่งความเสียหายเกิดขึ้นก่อนส่งมอบสินค้า มิใช่เกิดในขณะขนส่งสินค้าชำรุดบกพร่องอยู่เดิม โจทก์จ่ายค่าสินไหมทดแทนเกินมูลค่าของสินค้า ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์มีนายบุญดี ภู่พกสกุล ผู้รับมอบอำนาจเบิกความว่า จำเลยทั้งสองประกอบธุรกิจเดินเรือและขนส่งทางทะเลทั่วโลกโดยใช้ชื่อว่า เมอสก์ไลน์ และได้ความจากนายสุเทพ เหมานนท์พนักงานของจำเลยทั้งสองเบิกความตอบทนายโจทก์ถามค้านว่า จำเลยทั้งสองจะจดทะเบียนสาขาที่ประเทศอื่นอีกหรือไม่ พยานไม่ทราบแต่ที่จดทะเบียนเป็นตัวแทนของจำเลยทั้งสองเช่นสิงคโปร์ก็เป็นตัวแทนของจำเลยทั้งสอง เมื่อพิเคราะห์ถึงข้อเท็จจริงที่ว่าบริษัทเมอสก์ ไลน์ (สิงคโปร์) พีทีอี จำกัด กับสายเดินเรือเมอสก์สาขากรุงเทพฯ ใช้ชื่อประกอบกิจการเป็นภาษาอังกฤษมีรูปลักษณะตัวอักษรว่า เมอสก์ ไลน์ (MAERSK LINE) มีสัญลักษณ์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีฟ้า มีดาว 7 แฉกสีขาวอยู่ภายในเหมือนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งใบตราส่งของบริษัทเมอสก์ ไลน์ (สิงคโปร์) พีทีอีจำกัด กับของสายเดินเรือเมอสก์ ไลน์ สาขากรุงเทพฯ เหมือนกันทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบข้อความขนาดของตัวอักษร ทั้งได้ความจากนายสุเทพพยานจำเลยด้วยว่า สายเดินเรือเมอสก์สาขากรุงเทพฯ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่นำร่องเจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อให้เรือเมอสก์แมงโก้เข้าเทียบท่า และแจ้งวันเรือเข้าให้บริษัทพัทยาฟู้ด อินดัสตรี จำกัดทราบ พยานหลักฐานจำเลยทั้งสองเจือสมพยานหลักฐานโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนไม่จดทะเบียนของจำเลยทั้งสองได้ร่วมกับบริษัทเมอสก์ ไลน์(สิงคโปร์) พีทีอี จำกัด ทำการขนส่งสินค้าตามฟ้องโดยแบ่งหน้าที่กันทำ ดังนั้นสายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ และบริษัทเมอสก์ ไลน์ (สิงคโปร์) พีทีอี จำกัด จึงต้องร่วมกันรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการขนส่งดังกล่าว จำเลยทั้งสองในฐานะหุ้นส่วนของสายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน จึงต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ผู้รับประกันภัยสินค้านั้น
พิพากษายืน.