แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มารดาตาย โจทก์จำเลยได้รับโอนมรดกที่พิพาทร่วมกัน.ต่อมาได้ตกลงแบ่งแยกกันครอบครอง ถือว่าเป็นการตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทซึ่งจะมีขึ้นให้เสร็จไป. เข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 850. แต่เมื่อมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851 จะนำพยานบุคคลมาสืบหาได้ไม่. ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 โดยมีคำพิพากษาฎีกาที่ 530/2496 และ 1420/2510.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันเมื่อบิดามารดาตายได้พากันขอรับมรดกที่พิพาทร่วมกัน และได้ครอบครองตลอดมา ขอให้บังคับให้จำเลยแบ่งคนละครึ่ง จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นคนออกเงินซื้อที่พิพาทลงชื่อมารดาในโฉนดเมื่อมารดาตาย โจทก์จำเลยได้ตกลงแบ่งกันเป็นสัดส่วน โดยจำเลยได้ส่วนหน้าพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้าง โจทก์ได้ส่วนหลังซีกด้านทิศตะวันตก แบ่งแล้วต่างคนต่างก็ครอบครองเป็นส่วนสัดตลอดมาการตกลงแบ่งที่พิพาทไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การตกลงแบ่งที่ดินพิพาทเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ย่อมรับฟังไม่ได้พิพากษาให้แบ่งที่พิพาทคนละครึ่ง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อมารดาโจทก์จำเลยตาย ที่พิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์จำเลย โจทก์จำเลยได้รับโอนกรรมสิทธิ์รวมกัน ต่อมาได้ตกลงแบ่งแยกที่พิพาทกันครอบครอง ถือว่าเป็นการตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทซึ่งจะมีขึ้นให้เสร็จไป เข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 มิใช่ตกลงกันแบ่งปันทรัพย์มรดก แต่เมื่อมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายโจทก์ที่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851จำเลยจะนำสืบพยานบุคคลไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 94 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่530/2496 ระหว่างนายชิน ตันสุหัส โจทก์ นางชูศรี ตันสุหัส กับพวกจำเลย และที่ 1420/2510 ระหว่างนายเจริญ โสณะมัย โจทก์นางสังวาลย์ จันทูป จำเลย พิพากษายืน.