คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะยื่นฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คในคดีก่อนภายในอายุความก็ตาม แต่เมื่อศาลพิพากษายกฟ้อง ย่อมถือไม่ได้ว่าการฟ้องคดีดังกล่าวเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คของธนาคารกรุงไทย จำกัดสาขาพัทลุง จำนวน 4 ฉบับ นำมาแลกเงินสดจากโจทก์ไป 40,000 บาทเมื่อเช็คถึงกำหนด จำเลยไม่มีเงินพอที่จะจ่ายให้โจทก์และขอผัดผ่อนเรื่อยมา โจทก์เคยนำเช็คทั้งสี่ฉบับดังกล่าวฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 706/2530 ต่อศาลชั้นต้น แต่ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยว่าโจทก์ยังไม่นำเช็คไปขึ้นเงินต่อธนาคาร และธนาคารยังไม่ได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงได้ขอเช็คทั้งสี่ฉบับคืนจากศาลและนำไปขึ้นเงินจากธนาคาร ปรากฏว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินทั้งสี่ฉบับ โจทก์จึงได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้บังคับจำเลยใช้เงินจำนวน 40,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์นำเช็คพิพาททั้งสี่ฉบับมาฟ้องเกิน 1 ปีนับตั้งแต่เช็คแต่ละฉบับถึงกำหนดคดีโจทก์จึงขาดอายุความ ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 706/2530 ของศาลชั้นต้นเช็คพิพาททั้งสี่ฉบับไม่มีมูลหนี้ต่อกันแล้วเพราะจำเลยได้ชำระเงินตามเช็คให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
เมื่อสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนไปบ้างแล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานทั้งสองฝ่าย และพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คงมีปัญหาวินิจฉัยในขั้นนี้ตามที่โจทก์ฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า แม้โจทก์จะยื่นฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คในคดีก่อนภายในอายุความ 1 ปี ซึ่งมีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 ก็ตามแต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ย่อมถือไม่ได้ว่าการฟ้องคดีดังกล่าวเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 174 การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้เมื่อเกินกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ลงในเช็คทั้งสี่ฉบับ จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002
พิพากษายืน.

Share