แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้จำเลยจะไปมาหาสู่ ด. ที่บ้านโจทก์ร่วมเป็นประจำ แต่จำเลยไม่เคยเข้าไปในห้องนอนของ ด. เลย การที่จำเลยเข้าไปในห้องนอนของ ด.เพื่อตามหาด. ให้มาดื่มสุรากับตนโดยโจทก์ร่วมมิได้อนุญาตให้เข้าไป เป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นการรบกวนการครอบครองบ้านของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข จำเลยมีความผิดฐานบุกรุก ข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อจำเลยเข้าไปในห้องนอนของ ด.โจทก์ร่วมได้ปิดประตูห้องนอนไว้ เพื่อมิให้จำเลยออกมาเพราะจำเลยเมาสุราจำเลยได้ใช้เท้าถีบประตูห้องนอนจนบานประตูห้องนอนหลุดดังนี้นอกจากเป็นความผิดฐานบุกรุกกรรมหนึ่งแล้วยังผิดฐานทำให้เสียทรัพย์อีกกรรมหนึ่งด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,358, 362, 364, 365, 80, 81, 91
ระหว่างพิจารณานายมนต์ ราชาวงศ์ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 81 กรรมหนึ่ง จำคุก 7 ปี 6 เดือนและมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 362, 364,365(1)(2)(3) อีกกรรมหนึ่ง แต่เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 365(1)(2)(3) ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี คงรวมจำคุก 9 ปี 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…เชื่อได้ว่าจำเลยเมาสุราอาละวาดด่าโจทก์ร่วมและนางหมื่นบิดามารดาของนายโด่งจริง ซึ่งน่าจะมาจากเหตุที่นางหมื่นไม่ให้นายโด่งไปร่วมวงดื่มสุรากับจำเลยเพราะนางหมื่นและนายโด่งจะไปขายของที่ตลาด เมื่อจำเลยเห็นว่านางหมื่นกลับจากขายของที่ตลาดแล้ว นายโด่งน่าจะกลับมาด้วยจึงเข้าไปในบ้านโจทก์ร่วมเพื่อตามตัวนายโด่งมาร่วมวงดื่มสุราแต่บังเอิญนายโด่งไม่อยู่บ้านเลยเข้าใจว่าโจทก์ร่วมกับนางหมื่นกีดกันไม่ให้พบนายโด่ง จำเลยจึงได้วิ่งเข้าไปในห้องนอนของนายโด่งเพื่อจะตามหานายโด่ง โจทก์ร่วมเห็นจำเลยเมาสุรามากกลัวจะเกิดอันตรายแก่ตนและภรรยาจึงปิดประตูห้องนอนไว้เพื่อมิให้จำเลยออกจากห้องมาอาละวาดพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านเพราะความมึนเมาสุราจำเลยจึงใช้เท้าถีบประตูห้องนอนจนบานประตูห้องนอนหลุดแล้วออกมาพร้อมกับอาวุธปืนซึ่งพบอยู่ในห้องนอนปัญหาจึงมีว่าการกระทำของจำเลยที่เข้าไปในห้องนอนของนายโด่งและใช้เท้าถีบประตูห้องนอนจนบานประตูห้องนอนหลุดออกนั้น เป็นความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์หรือไม่ เห็นว่า แม้จำเลยจะไปมาหาสู่นายโด่งที่บ้านโจทก์ร่วมเป็นประจำ แต่ก็ได้ความจากโจทก์ร่วมและนางหมื่นว่าจำเลยไม่เคยเข้าไปในห้องนอนของนายโด่งเลย การที่จำเลยเข้าไปในห้องนอนของนายโด่งเพื่อตามหานายโด่งมาร่วมวงดื่มสุรากับตนโดยโจทก์ร่วมเจ้าของบ้านมิได้อนุญาตให้เข้าไปนั้นเป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นการรบกวนการครอบครองบ้านของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุกกรรมหนึ่งและการที่จำเลยใช้เท้าถีบประตูห้องนอนจนบานประตูหลุดออก 1 บานก็ถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์ของโจทก์ร่วมเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์อีกกรรมหนึ่งด้วย…”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 กระทงหนึ่ง และมาตรา 365(3) อีกกระทงหนึ่งแต่เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว โจทก์มิได้อุทธรณ์ขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลยศาลฎีกาจะพิพากษาลงโทษจำเลยหนักกว่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษมาแล้วไม่ได้จึงให้จำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1