คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายแยกการกระทำของจำเลยแต่ละกรรมให้เห็นชัดว่า การกระทำความผิดทั้งสองข้อหาแยกออกสำเร็จเป็นความผิดแต่ละกรรมเป็นกระทงความผิดอย่างไร โจทก์คงบรรยายฟ้องรวมกันว่าจำเลยมีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตและจำเลยได้นำเครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตซึ่งไม่สามารถแยกการกระทำทั้งสองอย่างออกต่างหากจากกันได้ เพราะการกระทำความผิดฐานใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นอาจเกิดขึ้นได้ในวาระเดียวกันกับความผิดฐานมีวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมพ.ศ. 2498 มาตรา 4, 6, 22, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91สั่งริบของกลางเพื่อไว้ใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 6, 23 ความผิดฐานมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมตามฟ้องเป็นความผิดที่อยู่ในบทมาตราเดียวกันจึงเป็นความผิดฐานเดียวกันไม่ใช่หลายกรรมตามฟ้องโจทก์ ให้ลงโทษปรับ 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,500 บาท ในกรณีที่จำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ของกลางริบเพื่อไว้ใช้ในราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข
โจทก์อุทธรณ์ว่า ความผิดฐานมีเครื่องวิทยุคมนาคมและฐานใช้เครื่องวิทยุคมนาคมเป็นความผิดต่างกรรมกัน ขอให้เรียงกระทงลงโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายแยกการกระทำของจำเลยแต่ละกรรมให้เห็นได้ชัดเจนว่าการกระทำความผิดทั้งสองข้อหานี้แยกออกสำเร็จเป็นความผิดแต่ละกรรมเป็นกระทงความผิดอย่างไรโจทก์คงบรรยายฟ้องรวมกันมาว่า จำเลยมีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตและจำเลยได้นำเครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งไม่สามารถแยกการกระทำทั้งสองอย่างออกต่างหากจากกันได้ เพราะการกระทำความผิดฐานใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นอาจเกิดขึ้นได้ในวาระเดียวกันกับความผิดฐานมีวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share