คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3085/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่คู่ความจะยกขึ้นอ้างในการยื่นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา225วรรคหนึ่งนอกจากจะต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในอุทธรณ์และต้องเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยแล้วต้องเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นด้วยและกรณีที่จะถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นนั้นต้องได้ความว่าคู่ความได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นขึ้นกล่าวอ้างเป็นประเด็นแห่งคดีมาในคำฟ้องหรือคำให้การและศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตรงตามประเด็นดังกล่าวนั้นด้วย กรณีจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การโจทก์ทั้งสองก็มิได้บรรยายข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายต่างๆดังที่จำเลยกล่าวอ้างมาในอุทธรณ์ไว้ในคำฟ้องดังนี้แม้ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามที่จำเลยอุทธรณ์มาโจทก์ทั้งสองและจำเลยจะได้แถลงรับกันตามที่ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาก็ตามก็ถือมิได้ว่าข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเป็นประเด็นในคดีทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายดังกล่าวนั้นด้วยข้ออุทธรณ์ของจำเลยจึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว คำฟ้องโจทก์บรรยายว่าเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตามคำสั่งศาลชั้นต้นจำเลยเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินพิพาทซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายโจทก์ทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉยเช่นนี้เห็นได้ว่าโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายโจทก์ทั้งสองย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อจัดการมรดกของผู้ตายเมื่อจำเลยเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินพิพาทโจทก์ทั้งสองทวงถามให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทแต่จำเลยเพิกเฉยจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งสองในการจัดการทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันแก่ทายาทโจทก์มีอำนาจฟ้องแม้จำเลยอ้างว่ายังมีข้อโต้แย้งว่าผู้ใดจะเป็นผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตายบ้างก็ไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ทั้งสองเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์มรดกเสียไป โจทก์ฟ้องให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทอ้างว่าเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทเมื่อโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกก็ย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อจัดการมรดกการรวบรวมทรัพย์มรดกก็ดีการแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทก็ดีล้วนแต่เป็นการจัดการมรดกทั้งสิ้นแม้โจทก์ฟ้องให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทแก่โจทก์เพื่อนำไปรวบรวมดำเนินการแก่ทายาทก็มีความหมายให้โจทก์รวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันแก่ทายาทนั่นเองการที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทก็เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องดังนี้ศาลชั้นต้นมิได้พิพากษานอกคำฟ้องแต่อย่างใด คดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขดำที่6258/2538ซึ่งโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลชั้นต้นฐานยักยอกแม้คดีนี้กับคดีอาญาดังกล่าวโจทก์กับจำเลยต่างเป็นคู่ความเดียวกันแต่คดีนี้โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทแก่โจทก์เพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกแก่ทายาทส่วนคดีอาญาดังกล่าวโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลชั้นต้นฐานยักยอกโฉนดที่ดินพิพาทประเด็นในคดีแพ่งและคดีอาญามิได้เป็นประเด็นอย่างเดียวกันไม่ว่าข้อเท็จจริงในคดีอาญาจะฟังว่าจำเลยจะมีความผิดตามฟ้องหรือไม่ก็ตามแต่ในคดีแพ่งจำเลยเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินพิพาทก็ต้องส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกดังนั้นคดีนี้กับคดีอาญาดังกล่าวจึงมิใช่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาการพิพากษาคดีนี้ไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา46แต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนางคล้าม เพ็งสุขผู้ตาย ต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนการเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลยและตั้งให้โจทก์ทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกแทน จำเลยเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินเลขที่ 47705 และ 47706 จำนวน 2 โฉนดซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตาย โจทก์ทั้งสองติดตามทวงถามให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเพื่อดำเนินการแบ่งปันมรดกแก่ทายาทแต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 47705และ 47706 แก่โจทก์ จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 47705และ 47706
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่คู่ความจะยกขึ้นอ้างในการยื่นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 วรรคหนึ่ง นอกจากจะต้องกล่าวไว้โดยแจ้งชัดในอุทธรณ์และต้องเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยแล้ว ต้องเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นด้วย และกรณีที่จะถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นนั้นต้องได้ความว่า คู่ความได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นขึ้นกล่าวอ้างเป็นประเด็นแห่งคดีมาในคำฟ้องหรือคำให้การ และศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตรงตามประเด็นดังกล่าวนั้นด้วย คดีนี้ปรากฏว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ทั้งสองก็มิได้บรรยายข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายต่าง ๆ ดังที่จำเลยกล่าวอ้างมาในอุทธรณ์ไว้ในคำฟ้องด้วย แม้ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามที่จำเลยอุทธรณ์มานั้นโจทก์ทั้งสองและจำเลยจะได้แถลงรับกันตามที่ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา ฉบับลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2538 ก็ตามแต่ก็ถือมิได้ว่าข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเป็นประเด็นในคดีทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายดังกล่าวนั้นด้วย ดังนั้นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายต่าง ๆ ตามที่โจทก์ทั้งสองและจำเลยแถลงรับกันจึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย
ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ทั้งสองฟ้องโดยอ้างว่าจะนำทรัพย์มรดกไปแบ่งปันให้แก่ทายาท แต่โจทก์ทั้งสองทราบดีว่าโฉนดที่ดินยังมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับผู้มีสิทธิรับมรดก โจทก์ทั้งสองอาจถูกตัดมิให้ได้รับมรดกก็ได้ กรณีไม่มีความจำเป็นที่โจทก์ทั้งสองต้องใช้สิทธิทางศาลในขณะนี้ โจทก์ทั้งสองนำคดีมาฟ้องจึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต โจทก์ทั้งสองไม่มีอำนาจฟ้องและฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์ทั้งสองบรรยายว่าเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายตามคำสั่งศาลชั้นต้น จำเลยเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินพิพาทซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายโจทก์ทั้งสองทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉยเช่นนี้ เห็นได้ว่า โจทก์ทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย โจทก์ทั้งสองย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อจัดการมรดกของผู้ตาย เมื่อจำเลยเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินพิพาท โจทก์ทั้งสองทวงถามให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทแต่จำเลยเพิกเฉย จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งสองในการจัดการทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันแก่ทายาท โจทก์ทั้งสองมีอำนาจฟ้องแม้จำเลยอ้างว่ายังมีข้อโต้แย้งว่าผู้ใดจะเป็นผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตายบ้าง ก็ไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ทั้งสองเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์มรดกเสียไป ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย
ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ทั้งสองฟ้องให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทอ้างว่าเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท แต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบโฉนดพิพาทแก่โจทก์ทั้งสองเพื่อนำไปรวบรวมทรัพย์มรดก จึงเป็นการพิพากษานอกคำฟ้องนั้น เห็นว่า โจทก์ทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อจัดการมรดกการรวบรวมทรัพย์มรดกก็ดี การแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทก็ดีล้วนแต่เป็นการจัดการมรดกทั้งสิ้น แม้โจทก์ทั้งสองฟ้องให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทแก่โจทก์ทั้งสองเพื่อนำไปรวบรวมดำเนินการแก่ทายาท ก็มีความหมายให้โจทก์ทั้งสองรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันแก่ทายาทนั่นเอง ทั้งเป็นการพิพากษาให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทตามคำขอท้ายฟ้อง ศาลชั้นต้นมิได้พิพากษานอกคำฟ้องแต่อย่างใด
จำเลยฎีกาเป็นข้อสุดท้ายว่า คดีนี้กับคดีอาญาหมายเลขดำที่ 6258/2538 ซึ่งโจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงพระนครเหนือฐานยักยอกเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา จึงควรรอคดีนี้ไว้เพื่อฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญาก่อนนั้น เห็นว่า แม้คดีนี้กับคดีอาญาดังกล่าวโจทก์ทั้งสองกับจำเลยต่างเป็นคู่ความเดียวกัน แต่คดีนี้โจทก์ทั้งสองในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทแก่โจทก์ทั้งสองแบ่งปันทรัพย์มรดกแก่ทายาทส่วนคดีอาญาดังกล่าวโจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงพระนครใต้ฐานยักยอกโฉนดที่ดินพิพาทเห็นได้ว่าประเด็นในคดีแพ่งและคดีอาญามิได้เป็นประเด็นอย่างเดียวกัน ไม่ว่าข้อเท็จจริงในคดีอาญาจะฟังว่าจำเลยจะมีความผิดตามฟ้องหรือไม่ แต่ในคดีแพ่งจำเลยเป็นผู้เก็บรักษาโฉนดที่ดินพิพาท ก็ต้องส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ดังนั้น คดีนี้กับคดีอาญาดังกล่าวจึงมิใช่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาการพิพากษาคดีนี้ไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46แต่อย่างใด
พิพากษายืน

Share