คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6165/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา199วรรคสองที่บัญญัติให้สิทธิจำเลยที่จะสาบานตนเข้าเบิกความเป็นพยานได้แม้จะขาดนัดยื่นคำให้การนั้นเป็นแต่กฎหมายให้สิทธิไว้จำเลยจะใช้สิทธินั้นหรือไม่ก็ได้เมื่อตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นไม่ปรากฎว่าจำเลยที่1ได้ขอใช้สิทธินี้เลยทั้งเมื่อศาลจดรายงานว่าหมดพยานโจทก์ทั้งสองให้รอฟังคำพิพากษาวันนี้จำเลยที่1ไม่ได้โต้แย้งกลับลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาและลงชื่อรับฟังคำพิพากษาการที่ศาลชั้นต้นไม่ได้สอบถามจำเลยที่1ว่าจะถามค้านพยานโจทก์ทั้งสองหรือไม่จะสาบานตนเข้าเบิกความเป็นพยานหรือไม่จึงไม่ใช่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2535โจทก์ที่ 1 ยืมรถจักรยานยนต์ที่โจทก์ที่ 2 เช่าซื้อมาขับไปติดต่อหาบ้านเช่า ขณะขับไปใกล้ถึงบริเวณทางแยกเข้าซอยไม่มีชื่อได้ถูกรถยนต์โดยสารประจำทางสาย 139 ของจำเลยที่ 2 ซึ่งขับโดยจำเลยที่ 1เลี้ยวขวาเข้าซอยไม่มีชื่อตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดเป็นเหตุให้ชนรถจักยานยนต์เสียหายและโจทก์ที่ 1 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ค่ารักษาพยาบาล ค่าขาดรายได้และค่าทนทุกข์เวทนาพร้อมดอกเบี้ย
โจทก์ทั้งสองยื่นคำบอกกล่าวขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์ทั้งสองพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้สืบตัวจำเลยที่ 1 แล้วคำพิพากษาใหม่
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบตัวจำเลยที่ 1 และพิพากษาใหม่
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ทั้งสองว่า ในกรณีที่จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและมาศาลในวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นไม่ได้สอบถามจำเลยที่ 1 ว่าจะถามค้านพยานโจทก์หรือไม่ และเมื่อสืบพยานโจทก์ทั้งสองเสร็จก็ไม่ได้สอบถามจำเลยที่ 1 ว่าจะสาบานตนให้การเป็นพยานหรือไม่ เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสองบัญญัติให้สิทธิจำเลยที่จะสาบานตนเข้าเบิกความเป็นพยานได้แม้จะขาดนัดยื่นคำให้การนั้น เป็นแต่กฎหมายบัญญัติให้สิทธิไว้จำเลยจะใช้สิทธินั้นหรือไม่ก็ได้ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 1 ได้ขอใช้สิทธินี้เลย ทั้งเมื่อศาลจดรายงานว่าหมดพยานโจทก์ทั้งสองให้รอฟังคำพิพากษาวันนี้จำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้โต้แย้งว่า จำเลยที่ 1 มีสิทธิสาบานตนให้การเป็นพยานเองได้และขอสาบานตนเข้าสืบ จำเลยที่ 1 กลับลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาและลงชื่อรับฟังคำพิพากษาเท่ากับจำเลยที่ 1 ไม่ติดใจที่จะใช้สิทธินั้น การที่ศาลชั้นต้นไม่ได้สอบถามจำเลยที่ 1 ว่าจะถามค้านพยานโจทก์ทั้งสองหรือไม่ก็ดีหรือไม่สอบถามว่าจำเลยที่ 1 จะใช้สิทธิสาบานตนเข้าเบิกความเป็นพยานหรือไม่ก็ดี จึงไม่ใช่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ทั้งสองฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ บังคับคดี ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น

Share