คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 973/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

สัญญาซื้อขายข้อ8ระบุว่าถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้ถูกต้องตามสัญญาผู้ซื้อมีสิทธิยกเลิกสัญญาริบหลักประกันและเรียกราคาสิ่งของที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากสัญญาในการซื้อจากผู้อื่นได้แต่ถ้าผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญาสัญญาข้อ9ให้สิทธิผู้ซื้อปรับผู้ขายเป็นรายวันในอัตราที่กำหนดนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งมอบจนถูกต้องครบถ้วนและในระหว่างที่มีการปรับนั้นผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาริบหลักประกันและเรียกราคาสิ่งของที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ในสัญญาตามสัญญาข้อ8นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้เช่นนี้เมื่อผู้ขายผิดสัญญาผู้ซื้อจะต้องใช้สิทธิเรียกร้องค่าปรับจากผู้ขายเสียก่อนที่จะบอกเลิกสัญญาจึงจะมีสิทธิเรียกค่าปรับควบกับการบอกเลิกสัญญาตามสัญญาข้อ9ได้การที่ผู้ซื้อมีหนังสือแจ้งให้ยกเลิกสัญญาพร้อมกับเรียกค่าปรับจากผู้ขายนั้นถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกสัญญาในระหว่างที่มีการปรับตามสัญญาข้อ9แต่ถือเป็นการเลิกสัญญาตามข้อ8ซึ่งไม่ได้ระบุให้สิทธิแก่ผู้ซื้อที่จะเรียกค่าปรับจากผู้ขาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายครุภัณฑ์ออสซิลโลสโคปจำนวน 90 เครื่อง ราคา 395,550 บาทให้โจทก์ ครบกำหนดส่งมอบแล้วจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของตามสัญญาเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย โจทก์จึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญาแจ้งริบเงินประกันและเรียกค่าปรับตามสัญญาข้อ 8 และข้อ 9 จำเลยที่ 1 รับหนังสือแล้วไม่นำเงินไปชำระให้โจทก์ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการห้างฯ จำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 91,767.60บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การประการหนึ่งว่าโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วจึงไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลยตามสัญญา ข้อ 8 และ ข้อ 9 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามคำขอของโจทก์และร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมโดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาทแทนโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองแทนจำเลยโดยกำหนดเป็นค่าทนายความ 5,000 บาท โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติว่า จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการทำสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ออสซิลโลสโคป ยี่ห้อลีคเคอร์ แบบ แอล บี โอ-510เอ. (LBO-510 A) ซึ่งผลิตจากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 90 เครื่อง ราคาเครื่องละ 4,395 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 395,550 บาทกับโจทก์โดยมีธนาคารทหารไทยเป็นผู้ค้ำประกันสัญญาในวงเงิน 19,778 บาท กำหนดส่งมอบของภายในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2521 ตามสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.3 เมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญาซื้อขาย จำเลยที่ 1ผิดสัญญาไม่ส่งมอบสิ่งของตามสัญญาให้โจทก์ จำเลยที่ 1 มีหนังสือลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2521 ถึงโจทก์ขอยกเลิกสัญญาตามเอกสารหมาย จ.8โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยที่ 1 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2521 อนุมัติให้ยกเลิกสัญญาซื้อขายตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2521 และแจ้งว่าต้องริบเงินประกันสัญญาซื้อขายตามสัญญาข้อ 8 เป็นเงิน 19,778 บาทกับให้จำเลยชำระค่าปรับตามเงื่อนไขในสัญญาข้อ 9 นับแต่วันเลยกำหนดการส่งของจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2521 เป็นเงิน 91,767.60 บาท ตามเอกสารหมาย จ.9 ต่อมาธนาคารทหารไทยได้นำเงินประกันสัญญาจำนวน19,778 บาท ชำระให้โจทก์ ส่วนค่าปรับจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า โจทก์มีสิทธิเรียกค่าปรับ จากจำเลยหรือไม่
ศาลฎีกาพิเคราะห์สัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.3 แล้วเห็นว่าตามสัญญาข้อ 8 มีข้อความว่า เมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญานี้แล้ว ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของทั้งหมดหรือไม่ครบจำนวน หรือสิ่งของที่ส่งมอบทั้งหมดไม่ถูกต้อง ผู้ซื้อมีสิทธิยกเลิกสัญญาได้และข้อ 8 วรรคสอง กำหนดให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในกรณีใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาผู้ซื้อมีสิทธิริบหลักประกันทั้งหมดหรือบางส่วน กับมีสิทธิเรียกราคาที่เพิ่มขึ้นจากสัญญาหากผู้ซื้อได้ซื้อจากผู้อื่นภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่บอกเลิกสัญญา แต่ถ้าผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญา สัญญาข้อ9 ระบุให้สิทธิผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละศูนย์จุดสอง (0.2)ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ นับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วนและข้อ 9 วรรคสอง ยังระบุให้สิทธิผู้ซื้ออีกว่า ในระหว่างที่มีการปรับนั้นถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ผู้ซื้อจะได้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันกับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 8 วรรค 2นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ ตามสัญญาข้อ 8และข้อ 9 การเลิกสัญญามี 2 ระยะ คือ ผู้ซื้อใช้สิทธิเลิกทันทีเมื่อผู้ขายผิดสัญญาไม่ส่งมอบสิ่งของที่ซื้อขายให้เลย หรือส่งมอบไม่ครบหรือส่งมอบไม่ถูกต้อง เมื่อผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาผู้ซื้อมีสิทธิตามข้อ 8 วรรค 2 คือ ริบหลักประกันและให้ผู้ขายใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากสัญญากรณีที่ซื้อสิ่งของตามสัญญาจากผู้อื่น อีกกรณีหนึ่งเลิกสัญญาในระหว่างที่ผู้ซื้อเรียกร้องให้ผู้ขายใช้ค่าปรับตามสัญญาข้อ 9วรรคแรก และผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ตามข้อ 9 วรรค 2 ตามสัญญาข้อ 9 วรรค 1 และ 2 โจทก์จะมีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลยในกรณีมีการเลิกสัญญาแล้ว โจทก์ต้องใช้สิทธิเรียกร้องค่าปรับจากจำเลยเสียก่อนที่มีการเลิกสัญญา การที่โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยที่ 1 แจ้งเจตนาให้ยกเลิกสัญญาตามที่จำเลยที่ 1เสนอมา กับแจ้งให้จำเลยที่ 1 ทราบว่าการเลิกสัญญาทำให้โจทก์เสียหายจึงต้องริบเงินประกันและเรียกค่าปรับ กรณีจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกสัญญาในระหว่างที่มีการปรับตามสัญญาข้อ 9 วรรค 2 แต่เป็นการเลิกสัญญาตามข้อ 8 วรรค 2 ซึ่งไม่ได้ระบุให้สิทธิแก่โจทก์เรียกค่าปรับจากจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับจากจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share