คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181-182/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

รับอนุญาตจำหน่ายสุรารัฐบาลแล้วไปจำหน่ายสุรามาจากต่างประเทศ เป็นผิดตามมาตรา 8 ไม่ใช่ ม.6 ครอบครัว ผัวเมีย ทำผิดทางอาชญาผัวเมียต่างคนต่างทำผิดอาญาด้วยกัน ก็ต้องรับโทษเรียงตัว อาชญา ม.45 ไม่รู้ว่าการกระทำของตนจะเป็นผิดทางอาชญาก็เป็นข้อแก้ตัวไม่ได้ ฎีกาอุทธรณ์ข้อเท็จจริง เจตนากระทำผิดหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงสัญญาทางพระราชไมตรีระวางสยามฝรั่งเศส ร.ศ.112 ข้อ 3-5 สัญญากะบับนี้ยกเว้นการเก็บภาษีขาเข้าและขาออก ไม่มีความหมายถึงการขายสุราโดยผิดใบอนุญาต

ย่อยาว

จำเลยทั้ง ๒ เป็นสามีภรรยากันได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสุราของรัฐบาล ร้านจำเลยอยู่ริมแม่น้ำโขงในเขตต์ ๒๕ กิโลเมตร์ ในวันโจทก์หาจำเลยนำสุรามาจากฝั่งซ้ายซึ่งไม่ใช่ของรัฐบาลเข้ามาจำหน่ายที่ร้านจำเลย จับได้ ๓ ขวด
ศาลเดิมพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๐ ม.๖ ปรับคนละ ๓๒๐ บาท ไม่ใช้ค่าปรับจัดการตามมาตรา ๑๘ ถ้าจะต้องจำแทนให้จำมีกำหนดคน ๘ เดือนของกลางริบ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าศาลเดิมวางโทษตามมาตรา ๖ ไม่ตรงจึงพิพากษาแก้วางโทษตามมาตรา ๘
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีระวางกรุงสยามกับฝรั่งเศสลงวันที่ ๓ ตุลาคม ร.ศ. ๑๑๒ ที่จำเลยอ้างยกเว้นแต่การเก็บภาษีขาเข้าและขาออกหาได้มีความหมายเกี่ยวข้องถึงการขายสุราผิดใบอนุญาตไม่ ส่วนข้อฎีกาที่ว่าจำเลยเป็นสามีภรรยากันจะผิดก็ผิดคนเดียวนั้น เมื่อต่างคนต่างทำผิดด้วยกันก็ต้องรับโทษเรียงตัว ข้อที่ว่าไม่เจตนากระทำผิดเป็นข้อเท็จจริงฎีกาไม่ได้ ข้อที่ว่าจำเลยไม่ทราบว่าการกระทำจะเป็นความผิดก็เป็นข้อแก้-ตัวไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share