คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856-857/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การประเมินเก็บภาษีร้านค้านั้น ต้องอาศัยความจริงแห่งประโยชน์ที่บังเกิดจากทรัพย์สิน อันเป็นมูลที่จะเก็บภาษี
หลักที่จะคำนวณค่ารายปีในชั้นแรกก็คือ จำนวนเงินซึ่งร้านค้านั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ เท่าใด ซึ่งจะพึงเห็นได้จากความคิดเห็นของวิญญูชนธรรมดาตามกาละเทศะและมุ่งเอาความจริงเป็นหลัก ถ้าทางเจ้าหน้าที่สรรพากรเรียกประเมินเกินไปแล้ว ผู้เสียภาษีก็ย่อมมีสิทธิขอคืนได้

ย่อยาว

คดี 2 สำนวนนี้ โจทก์ฟ้องเป็นทำนองเดียวกันว่า โจทก์ต่างเช่าห้องของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อยู่ที่ตลาดทำการค้าขาย เมื่อ พ.ศ. 2493 สมุห์บัญชีอำเภอได้ประเมินภาษีร้านค้าของโจทก์ และเรียกเก็บไปแล้วในปีเดียวกันนั้นเองนายถวิลสรรพากร จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผู้ช่วยได้ประเมินใหม่และเรียกเก็บเพิ่มขึ้น โจทก์ต่างอุทธรณ์คำสั่งต่อข้าหลวงประจำจังหวัด ๆ ได้ยกอุทธรณ์ของโจทก์เสีย โจทก์จึงมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการประเมินภาษีของจำเลยเป็นการเกินสมควรขอให้สั่งคืนเงินที่เก็บเพิ่มให้โจทก์

จำเลยต่อสู้ว่า ที่โจทก์เสียภาษีไว้ชั้นเดิม ยังไม่เป็นการสมควร อาศัยอำนาจตามมาตรา 18, 19, 20 และ 24 แห่งประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2481 จึงได้จัดการประเมินใหม่ให้ถูกต้อง โดยการสำรวจตรวจสอบเทียบเคียงกับร้านค้าอื่น ๆ ที่มีค่าเช่าสูงกว่า

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน

โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยคืนเงินภาษีที่เก็บเพิ่มให้แก่โจทก์ทั้งสองสำนวน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์เช่าห้องของสำนักงานทรัพย์สิน ฯลฯ ทำการค้าขายเสียค่าเช่าห้องละ 18 บาทต่อเดือน ในพ.ศ. 2493 สรรพากรอำเภอได้ประเมินเก็บภาษีร้านค้าไปจากโจทก์ โดยถือเอาค่าเช่าที่เสียกันจริงเป็นเกณฑ์ แต่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสรรพากรจังหวัด เห็นว่า ภาษีที่เรียกเก็บจากโจทก์นั้นต่ำไป จึงสั่งให้ผู้ช่วยไปตรวจสอบแล้วจำเลยที่ 1 ประเมินใหม่โดยตีราคาค่าเช่าห้องเป็นห้องละ 40 บาทต่อเดือน โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อจำเลยที่ 3 ๆ สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์

ศาลฎีกาเห็นว่า หลักที่จะคำนวณค่ารายปีในชั้นแรกก็คือจำนวนเงินซึ่งร้านค้านั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ เท่าใดสมควรให้เช่าได้จำนวนเท่าใดนั้น พึงใช้จากความคิดเห็นของวิญญูชนธรรมดาสามัญทั่ว ๆ ไป ตามกาลเทศะ และมุ่งเอาความจริงเป็นหลัก

ในคดีนี้ ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าควรถือเอาค่าเช่าอันแท้จริง ว่าเป็นค่าเช่าที่สมควรแล้ว การประเมินภาษีใหม่รายนี้ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว

จึงพิพากษายืน

Share