แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยมีคำสั่งย้ายโจทก์จากตำแหน่งพนักงานขับรถไปทำงานตำแหน่ง ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายขนส่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างทำให้โจทก์มีรายได้ลดลง จำเลยให้การว่า การย้ายเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับการทำงานและเป็นอำนาจบริหาร ไม่ได้กลั่นแกล้งโจทก์ การที่ ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่ามีเหตุเพิกถอนคำสั่งย้ายของจำเลยหรือไม่ ในการวินิจฉัยจึงต้องพิเคราะห์ก่อนว่าคำสั่งย้ายตำแหน่งงานโจทก์เป็นไปโดยชอบหรือไม่ ประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในอันที่จะได้ความแจ้งชัดในข้อเท็จจริงศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานตามที่เห็นสมควรได้ ศาลแรงงานกลางย่อมสามารถรับฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่พอใจในการ ก่อตั้งสหภาพแรงงานพนักงานขับรถขนส่งสินค้า เมื่อโจทก์เป็นผู้ร่วมก่อตั้งสหภาพแรงงาน เป็น ประธานสหภาพแรงงาน และเป็นกรรมการลูกจ้าง น่าเชื่อว่าจำเลยไม่พอใจโจทก์ การย้ายโจทก์ให้มารับตำแหน่งใหม่กระทำโดยไม่สุจริต เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ แล้วนำมาวินิจฉัยว่าคำสั่งย้ายตำแหน่งงานโจทก์ไม่ชอบ มีเหตุสมควรเพิกถอนคำสั่งย้ายของจำเลยและให้โจทก์กลับไปทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถ จึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาท ไม่ใช่การวินิจฉัยนอกฟ้อง
เมื่อนายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างแล้ว การที่นายจ้างจะมอบหมายงานให้ลูกจ้างทำหรือไม่เป็นสิทธิ ของนายจ้างจริงตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2850/2525 แต่การที่นายจ้างไม่มอบหมายงานให้ลูกจ้างทำ ต้องไม่เป็นที่เสียหายแก่ลูกจ้างด้วย
การที่ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งย้ายของจำเลย แล้วพิพากษาต่อไปว่าให้โจทก์ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์หรือเงินเพิ่มหรือสวัสดิการเหมือนเดิม ก็เพื่อระงับข้อพิพาทที่โจทก์และจำเลยอาจโต้แย้งกันเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ต่อไป และให้จำเลยสามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาได้อย่างถูกต้องในการให้โจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถดังเดิม ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอของโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่สั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่งและให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถตามเดิม
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งจำเลยที่สั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายขนส่ง และให้จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าโดยให้ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์หรือเงินเพิ่มหรือสวัสดิการเหมือนเดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันมีคำพิพากษาเป็นต้นไป
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยมีคำสั่งย้ายโจทก์เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างทำให้โจทก์มีรายได้ลดลง จำเลยให้การว่าการย้ายมิได้เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์โดยเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับการทำงานและเป็นอำนาจทางบริหารของจำเลย ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่ามีเหตุเพิกถอนคำสั่งจำเลยที่ให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่ง และให้โจทก์กลับไปทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถตามฟ้องหรือไม่ เพียงใด เช่นนี้การจะวินิจฉัยว่ามีเหตุเพิกถอนคำสั่งจำเลยที่ให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่งหรือไม่จึงต้องพิเคราะห์ก่อนว่า คำสั่งจำเลยที่ย้ายโจทก์นี้เป็นไปโดยชอบหรือไม่ ซึ่งจำเลยก็ให้การว่าการย้ายมิได้เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ ประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในอันที่จะได้ความแจ้งชัดในข้อเท็จจริงแห่งคดีศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานตามที่เห็นสมควรได้ ฉะนั้นศาลแรงงานกลางย่อมสามารถรับฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่พอใจในการก่อตั้งสหภาพแรงงานพนักงานขับรถขนส่งสินค้า เมื่อโจทก์เป็นผู้ร่วมก่อตั้งสหภาพแรงงาน เป็นประธานสหภาพแรงงานฯ และเป็นกรรมการลูกจ้างตลอดมา น่าเชื่อว่าจำเลยไม่พอใจโจทก์ การย้ายโจทก์ให้มารับตำแหน่งใหม่เป็นการกระทำโดยไม่สุจริต เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ แล้วนำมาวินิจฉัยว่าคำสั่งย้ายโจทก์เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ มีเหตุสมควรเพิกถอนคำสั่งจำเลยที่ให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่งและให้โจทก์กลับไปทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถตามฟ้องจึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาทหาได้เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องตามอุทธรณ์ไม่
ตามข้อตกลงการว่าจ้างโจทก์เป็นพนักงาน ประกอบด้วยอำนาจในการบริหารงานทั่วไปของนายจ้าง จำเลยผู้เป็นนายจ้างมีอำนาจโยกย้ายเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์ผู้เป็นลูกจ้างได้ตามความเหมาะสม แต่การย้ายนั้นต้องไม่เป็นการลดตำแหน่งหรือค่าจ้างโจทก์ อีกทั้งไม่เป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ด้วย เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงมาแล้วว่าการย้ายโจทก์เพราะจำเลยไม่พอใจที่โจทก์มีส่วนร่วม ในการก่อตั้งสหภาพแรงงานพนักงานขับรถส่งสินค้าในสถานประกอบการของจำเลย ทั้งโจทก์เป็นประธานสหภาพแรงงานและกรรมการลูกจ้าง การย้ายโจทก์เป็นการกระทำโดยไม่สุจริตเป็นการกลั่นแกล้งโจทก์ เช่นนี้ การย้ายโจทก์ไปดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่งจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยต่อไปว่าการย้ายนี้เป็นการลดตำแหน่งหรือค่าจ้างโจทก์หรือไม่ เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้ ดังนั้น ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาเพิกถอนคำสั่งจำเลยที่สั่งให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่งและให้โจทก์ทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าจึงชอบแล้ว
คดีนี้โจทก์ฟ้องและมีคำขอเพียงให้เพิกถอนคำสั่งจำเลยที่สั่งให้โจทก์ทำงานหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้างานฝ่ายขนส่งและสั่งให้โจทก์ทำงานหน้าที่พนักงานขับรถขนส่งตามเดิม ทั้งการที่นายจ้างจะมอบหมายงานให้ลูกจ้างทำหรือไม่เป็นสิทธิของนายจ้างเมื่อนายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่จำเลยอ้างจริงแต่การที่นายจ้างจะไม่มอบหมายงานให้ลูกจ้างทำต้องไม่เป็นที่เสียหายแก่ลูกจ้างด้วย เช่นนี้ที่ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษาต่อไปให้โจทก์ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์หรือเงินเพิ่มหรือสวัสดิการเหมือนเดิมนี้แสดงให้เห็นว่าก็เพื่อระงับข้อพิพาทที่โจทก์และจำเลยอาจจะโต้แย้งกันเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ต่อไปได้ ทั้งเพื่อให้จำเลยสามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาได้อย่างถูกต้องในการให้โจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถดังเดิม ฉะนั้นที่ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษาดังกล่าวชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน