แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
จำเลยที่ 3 และที่ 4 ขับรถยนต์มายังที่เกิดเหตุเพื่อเจรจาซื้อขายเมทแอมเฟตามีน โดยมิได้นำเมทแอมเฟตามีนของกลางมากับรถยนต์ด้วย ดังนั้น รถยนต์จึงมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ไม่สามารถที่จะริบได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83 และริบของกลาง
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ
จำเลยที่ 2 และที่ 3 และที่ 4 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15, 66 วรรคสอง, 102 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสี่ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพหลังการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว และคำให้การชั้นจับกุม ชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 และที่ 4 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 (ที่ถูกประกอบมาตรา 52 (1)) คงจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ไว้ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 3 คงให้ประหารชีวิต ริบของกลาง
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง (เดิม), 66 วรรคสอง (เดิม), 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 อันเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปรากฏว่าความผิดทั้งสองบทดังกล่าวมีระวางโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง สำหรับรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5 ป – 9653 กรุงเทพมหานคร ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ริบนั้น เห็นว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 นำรถยนต์ดังกล่าวมายังที่เกิดเหตุเพื่อเจรจาซื้อขายเมทแอมเฟตามีน มิได้นำเมทแอมเฟตามีนของกลางมากับรถยนต์คันดังกล่าว จึงมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ไม่สามารถที่จะริบได้”
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5 ป – 9653 กรุงเทพมหานคร และให้คืนแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์