แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นอักษรโรมันว่า “LUCKY”อ่านว่า “ลักกี้ ” แปลว่าโชคดี ใช้กับสินค้าที่นอนสปริงในจำพวกสินค้าประเภท 50 ส่วนเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นอักษรโรมันว่า “LUXKY” อ่านว่า “ลักกี้” แปลความหมายไม่ได้ ใช้กับสินค้าที่นอนทุกชนิดในจำพวกสินค้าประเภท 41 เครื่องหมายการค้าของโจทก์กับเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นอักษรโรมัน และจำนวนตัวอักษรเท่ากัน ตัวอักษรต่างกันเฉพาะตัวที่ 3 เท่านั้น แต่คงอ่านออกเสียงเหมือนกัน แม้สินค้าของโจทก์และจำเลยจะจดทะเบียนไว้ต่างจำพวกกันแต่ก็จดทะเบียนสินค้าในประเภทเดียวกันคือที่นอน ทั้งจำเลยก็ผลิตสินค้าประเภทที่นอนออกจำหน่ายเช่นเดียว กับโจทก์ ดังนั้นสาธารณชนย่อมหลงผิดว่า สินค้าของจำเลยคือสินค้าของโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิขอให้บังคับจำเลยงดใช้ เครื่องหมายการค้าคำว่า “LUXKY” และขอเพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวของจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ โจทก์ได้รับโอนเครื่องหมายการค้า คำว่า “LUCKY” อ่านว่า “ลักกี้” แปลว่าโชคดีใช้กับสินค้าที่นอนสปริงในจำพวกสินค้าประเภท ๕๐ จากนายจาโป๋ว แซ่เบ๊ ซึ่งเป็นผู้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๐๘ โจทก์ได้ผลิตจำหน่ายสินค้าดังกล่าวตลอดมาเป็นเวลา ๑๙ ปีแล้ว เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๒๔ จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “LUXKY” อ่านว่า”ลักกี้” แปลไม่ได้ ใช้กับสินค้าที่นอนเช่นเดียวกับโจทก์ ตามคำขอเลขที่ ๑๒๑๕๑๖ ทะเบียนเลขที่ ๗๗๐๔๐ เป็นการเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ซึ่งมีสิทธิดีกว่าจำเลย โจทก์แจ้งให้จำเลยไปจดทะเบียนเพิกถอนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลบังคับจำเลยงดใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวบนสินค้าทำออกจำหน่ายและให้จำเลยไปจดทะเบียนเพิกถอน หากไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของเครื่องหมายการค้าตามฟ้องสำหรับสินค้าที่นอนสปริงในจำพวกสินค้าประเภท ๕๐ ส่วนเครื่องหมายการค้าของจำเลยสำหรับสินค้าในจำพวกประเภท ๔๑ เป็นคนละประเภทและจำพวกกัน และไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามฟ้อง ทั้งลักษณะลวดลายก็แตกต่างกัน ไม่เป็นเหตุให้ผู้ซื้อสับสนหลงผิดในแหล่งกำเนิดแต่อย่างใด จำเลยได้จดทะเบียนการค้าของตนโดยสุจริต โจทก์ไม่มีสิทธิห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าของจำเลยดังกล่าวได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยงดใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า “LUXKY” บนสินค้าที่นอนทุกชนิดของจำเลย ให้จำเลยเพิกถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เครื่องหมายการค้า “LUCKY” ของโจทก์กับเครื่องหมายการค้า “LUXKY” ของจำเลยนั้นมีตัวอักษรโรมัน ๕ ตัวเช่นเดียวกัน อักษรตัวที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ และที่ ๕ เหมือนกันทุกตัวคงต่างกันเฉพาะอักษรตัวที่ ๓ เท่านั้น สำหรับการอ่านออกเสียงนั้นจำเลยก็รับว่าอ่านเหมือนกันว่า “ลักกี้” สินค้าของโจทก์จดทะเบียนตามคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.๒ซึ่งระบุว่าเป็นสินค้าจำพวก ๔๐ ประเภทที่นอนสปริง ส่วนสินค้าของจำเลยจดทะเบียนไว้ตามทะเบียนเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.๘ในสินค้าจำพวก ๔๑ ประเภทที่นอนทุกชนิด เห็นได้ว่าแม้สินค้าของโจทก์และของจำเลยจะจดทะเบียนไว้ต่างจำพวกกันแต่ก็จดทะเบียนสินค้าในประเภทเดียวกันคือที่นอน จำเลยจดทะเบียนสำหรับที่นอนทุกชนิดซึ่งรวมทั้งที่นอนสปริงด้วย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยอ่านออกเสียงเหมือนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ทั้งจำเลยก็ผลิตสินค้าประเภทที่นอนออกจำหน่ายเช่นเดียวกับโจทก์ เช่นนี้ ศาลฎีกาเชื่อว่าสาธารณชนย่อมหลงผิดว่า สินค้าของจำเลยคือสินค้าของโจทก์ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.