คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้ภารจำยอมโดยอายุความในการนำกระบือผ่านที่ดินนาของจำเลยชั่วระยะเวลาก่อนจำเลยทำนาเสร็จ เมื่อการทำนาของจำเลยตามที่เป็นมาจนเกิดภารจำยอมเป็นการทำนาดำ จำเลยจะเปลี่ยนเป็นทำนาหว่าน ซึ่งลงมือก่อนทำนาดำ เป็นเหตุให้โจทก์ใช้ทางนำกระบือผ่านไม่ได้ อันเป็นการเสื่อมประโยชน์แก่ภารจำยอมหาได้ไม่
แม้จำเลยจะทำนาหว่านได้ผลดีกว่านาดำ ก็ไม่เป็นเหตุที่อ้างให้เสื่อมประโยชน์แห่งภารจำยอมของโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่บ้านที่สวนของโจทก์อยู่ติดที่นาจำเลย โจทก์นำกระบือผ่านที่นาจำเลยออกไปทำนา จนเสร็จการทำนามา ๕๐-๖๐ ปีแล้วบัดนี้จำเลยปลูกข้าวปิดกั้น ขอให้พิพากษาห้ามจำเลยปลูกข้าวปิดกั้นทางจนกว่าจะเสร็จฤดูทำนา
จำเลยต่อสู้ว่า ก่อนการทำนา ผู้ใดเดินผ่านไปมาไม่มีการหวงห้ามจำเลยทำนาของจำเลยตามปกติ โจทก์มีทางอื่นนำกระบือไปได้
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์มีทางอื่นพอที่จะนำกระบือผ่านไปได้กรณีไม่ใช่ทางจำเป็นหรือภารจำยอม พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การทำนาโจทก์ต้องนำกระบือจากบ้านผ่านนาจำเลยไปจนถึงนาโจทก์ มีช่องทางผ่านในนาจำเลยมากว่า ๒๐ ปี ทางพิพาทจึงเป็นภารจำยอม พิพากษากลับว่า ทางตรงที่พิพาทเป็นทางภารจำยอมกว้าง๓ เมตร ยาวประมาณ ๔ วา หรือจนพ้นเขตที่นาของจำเลย ห้ามจำเลยและบริวารปลูกข้าวปิดกั้นทาง จนกว่าจะเสร็จฤดูทำนา
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์นำกระบือผ่านที่นาจำเลยมาเป็นเวลาช้านานดังที่ปรากฏในคดีนี้ เป็นภารจำยอม ซึ่งโจทก์ได้มาโดยอายุความชั่วระยะเวลาก่อนจำเลยทำนาเสร็จการที่จำเลยทำนาของจำเลยตามที่เป็นมาหลายสิบปีจนเกิดภารจำยอมนี้ เป็นการทำนาดำที่ดินของจำเลยจึงต้องรับภารจำยอมตามสภาพเดิมนั้นต่อไป จำเลยจะเปลี่ยนเป็นทำนาหว่านโดยลงมือก่อนทำนาดำ เป็นเหตุให้โจทก์ใช้ทางนำกระบือผ่านที่ดินของจำเลยไม่ได้ อันเป็นการเสื่อมประโยชน์แก่ภารจำยอมนั้นหาได้ไม่ แม้จำเลยจะทำนาหว่าน เพราะได้ผลดีกว่าทำนาดำแต่เดิมก็ไม่เป็นเหตุที่จะอ้างให้เสื่อมประโยชน์แห่งภารจำยอมของโจทก์ได้
พิพากษายืน

Share