คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2396/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยซึห่งได้รับการปล่อยชั่วคราวหลบหนีไปเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 ศาลจึงมีคำสั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันครั้นปี พ.ศ. 2524 จำเลยก็เข้ามอบตัวต่อทางราชการ โดยผู้ประกันทราบดีว่าจำเลยพักอยู่ที่ใด แต่ผู้ประกันก็มิได้ขวนขวายที่จะนำตัวจำเลยมาส่งศาลหรือร้องขอให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับจำเลยส่งศาล จนกระทั่งจำเลยถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2527 ผู้ประกันจึงมาร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งปรับผู้ประกันหรือลดค่าปรับ ดังนี้จึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกัน.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖, ๒๑๕, ๒๑๘, ๓๔๐, ๓๕๘, ๓๖๐ และขอให้จำเลยที่ ๑ คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ นายจรินทร์ เพชรเรือง ผู้ประกันกับพวกขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ ๑ แล้วผิดสัญญาประกันศาลชั้นต้นจึงสั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันเป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ แล้วสั่งจำหน่ายคดีในเวลาต่อมา วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๒๗ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งปรับผู้ประกันหรือลดค่าปรับโดยอ้างว่าจำเลยที่ ๑ ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๒๗ ผู้ประกันไม่มีเจตนาผิดสัญญาประกัน
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยที่ ๑ ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ เป็นเหตุให้ต้องเลื่อนคดีมาจนกระทั่งวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้ปรับผู้ประกันเป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาทตามสัญญา ต่อมาวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๒๒ ยังจับจำเลยที่ ๑ ไม่ได้ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ ๑ แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาสำหรับจำเลยอื่นต่อไปครั้น พ.ศ. ๒๕๒๔ จำเลยที่ ๑ ซึ่งหลบหนีไปเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้เข้ามอบตัวต่อทางราชการตามนโยบายของรัฐบาลโดยทางการไม่เอาความผิดกับจำเลยที่ ๑ หลังจากนั้นจำเลยที่ ๑ ก็ได้ประกอบอาชีพทำนา และพักอยู่ที่ตำบลสามตำบล อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตลอดมา ต่อมาวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๒๗ จำเลยที่ ๑ ได้ถูกคนร้ายยิงถึงแก่ความตายปรากฏตามรายงานการชันสูตรพลิกศพและมรณบัตรท้ายคำร้องของผู้ประกัน ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อจำเลยที่ ๑ หลบหนี ก็เป็นหน้าที่ของผู้ประกันที่จะต้องติดตามและนำตัวจำเลยที่ ๑ มาส่งศาล ทั้งผู้ประกันได้ทราบดีว่าจำเลยที่ ๑ ซึ่งหลบหนีไปเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ได้กลับเข้ามามอบตัวต่อทางราชการแล้ว และได้ประกอบอาชีพทำนาโดยพักอยู่ที่ตำบลสามตำบล อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ผู้ประกันก็มิได้ขวนขวายที่จะนำตัวจำเลยที่ ๑ มาส่งศาลหรือร้องขอให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับจำเลยที่ ๑ ส่งศาลแต่อย่างใดผู้ประกันคงเพิกเฉยไม่นำพาต่อการที่จะให้ได้ตัวจำเลยที่ ๑ มาส่งศาลจนกระทั่งจำเลยที่ ๑ ถูกยิงถึงแก่ความตายที่ผู้ประกันฎีกาว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้มีอิทธิพล ทั้งที่มีหมายจับจำเลยที่ ๑ ไว้แล้ว แต่ทางราชการก็ไม่กล้าจับกุมนั้น ก็เป็นเพียงข้อกล่าวอ้างลอย ๆ เพราะไม่ปรากฏว่าผู้ประกันได้เคยร้องขอให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับจำเลยที่ ๑ แต่อย่างใดกรณีจึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้วฎีกาของผู้ประกันฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share