คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายตกลงขายครั่งให้แก่จำเลยในราคา 400 บาท จำเลยขอแกะครั่งจากไม้ก่อน เมื่อแกะครั่งแล้ว ก่อนเอาครั่งไปจะชำระเงินอีก 300 บาท โดยไม่ได้ตกลงให้ถือเอาการชำระเงินเป็นเงื่อนไขในการโอนกรรมสิทธิ์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงมิใช่เงื่อนไขที่จะทำให้กรรมสิทธิ์ในครั่งไม่โอนไปยังจำเลย การตกลงซื้อขายครั่งระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด เพราะเป็นการซื้อเหมาครั่งที่มีจำนวนแน่นอน เมื่อตกลงซื้อขายด้วยวาจากรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อขายย่อมโอนไปยังผู้ซื้อทันทีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 การที่จำเลยเอาทรัพย์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยไป จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๑) ให้จำคุก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่ากรรมสิทธิ์ในครั่งได้โอนไปยังจำเลยผู้ซื้อแล้วนับแต่วันที่ตกลงกัน การที่จำเลยชำระราคาไม่ครบเป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ พิพากษากลับยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ก่อนเกิดเหตุจำเลยได้ไปตกลงขอซื้อครั่งจากนางบุญรอดมารดานายสมศักดิ์ ผู้เสียหาย ในราคา ๑๕๐ บาท โดยวางเงินมัดจำไว้ ๑๐๐ บาทและตกลงจะมาตัดครั่งเอง แต่ก็ไม่ได้มาตัดครั่งตามที่ตกลง หลังจากนั้นนางบุญรอดได้ยกครั่งดังกล่าวให้แก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงตักครั่งลงมา จำเลยมาขอซื้อครั่งนั้นอีกผู้เสียหายตกลงขายให้ในราคา ๔๐๐ บาท จำเลยขอแกะครั่งเองแล้วจำเลยเอาครั่งที่แกะแล้วทั้งหมดไป โดยยังไม่ชำระราคาครั่งที่เหลืออีก ๓๐๐ บาท ให้แก่ผู้เสียหายแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า โจทก์ฎีกาว่าการซื้อขายครั่งระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยเป็นการซื้อขายที่มีเงื่อนไข กรรมสิทธิ์ในครั่งยังไม่ตกเป็นของจำเลย การที่จำเลยเอาครั่งไป จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ พิเคราะห์แล้ว ที่ผู้เสียหายเบิกความว่าเมื่อตกลงขายครั่งให้แก่จำเลยในราคา ๔๐๐ บาท จำเลยขอแกะครั่งจากไม้ก่อนและเมื่อแกะครั่งแล้วก่อนเอาครั่งไปจะชำระเงินอีก ๓๐๐ บาท ก็ไม่ได้ความว่าผู้เสียหายกับจำเลยตกลงกันให้ถือเอาการชำระเงินเป็นเงื่อนไขในการโอนกรรมสิทธิ์เห็นว่า ข้อตกลงดังกล่าวมิใช่เงื่อนนไขที่จะทำให้กรรมสิทธิ์ในครั่งไม่โอนไปยังจำเลยผู้ซื้อ การส่งมอบหรือการชำระราคาเป็นเพียงหน้าที่ที่ผู้ซื้อและผู้ขายจะพึงต้องปฏิบัติต่อกันภายหลังที่มีสัญญาซื้อขายเกิดขึ้นแล้ว การตกลงซื้อขายครั่งระหว่างผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ขายกับจำเลยซึ่งเป็นผู้ซื้อ มีลักษณะเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด เพราะเป็นการซื้อเหมาครั่งที่มีจำนวนแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ปรากฏว่ามีครั่งจำนวนอื่นปะปนอยู่จึงไม่จำเป็นต้องนับ ชั่ง ตวง วัด หรือคัดเลือกแต่อย่างใดอีก เมื่อมีการตกลงซื้อขายกันด้วยวาจากรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อขายย่อมโอนไปยังผู้ซื้อทันที ตั้งแต่เมื่อขณะทำสัญญาซื้อขายกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๕๘ การที่จำเลยเอาทรัพย์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยไป จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
พิพากษายืน

Share