คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3968/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213
โจทก์ประกอบการค้าปลาและสัตว์ทะเล มิได้ประกอบการค้าขายรถยนต์การที่โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ค่ารถยนต์จากจำเลยจึงมิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) จะนำอายุความตามมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับมิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาซื้อรถยนต์ ๑ คันราคา ๑๗๐,๕๓๐ บาทไปจากโจทก์ โดยตกลงผ่อนชำระราคาเป็นรายเดือน จำเลยชำระราคาให้โจทก์เพียงบางส่วน คงค้างอยู่อีก ๑๐๙,๗๖๐ บาท จำเลยไม่ชำระ โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉย จึงขอบังคับให้จำเลยใช้เงิน ๑๐๙,๗๖๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแล้วรับโอนทะเบียนและรับมอบรถยนต์คืนไปจากโจทก์
จำเลยให้การว่า หลังจากทำสัญญาซื้อขายกันแล้ว รถยนต์เกิดอุบัติเหตุชนคนตาย พนักงานสอบสวนได้ยึดรถยนต์ไว้ ต่อมาโจทก์ขอรับรถยนต์คืนไปจากพนักงานสอบสวนแล้วไม่ยอมให้จำเลยใช้รถยนต์อีก ภาระผูกพันตามสัญญาจึงสิ้นสุดลง โจทก์มิได้ฟ้องคดีภายในกำหนดเวลา ๒ ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าหลังจากจำเลยซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์แล้วแต่ยังชำระราคาไม่ครบ คนงานของจำเลยขับรถยนต์คันดังกล่าวชนเด็กถึงแก่ความตาย พนักงานสอบสวนได้ยึดรถยนต์ไว้ จำเลยขอให้โจทก์ไปรับรถคืน โจทก์จึงไปรับรถคืนจากพนักงานสอบสวนในฐานะที่โจทก์ยังมีชื่อเป็นเจ้าของในทะเบียนรถยนต์อยู่ ต่อมาโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ที่ค้างรวม ๑๐๙,๗๖๐ บาท และพร้อมที่จะโอนทะเบียนรถยนต์ให้จำเลยทันที แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นฟังได้ว่า จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ได้ละเลยไม่ชำระหนี้ของตน โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ตามบทบัญญัติมาตรา ๒๑๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้
จำเลยกล่าวแก้เป็นประเด็นมาในคำแก้ฎีกาว่า โจทก์ไม่ฟ้องคดีภายในกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕(๑) คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โจทก์ประกอบการค้าปลาและสัตว์ทะเลมิได้ประกอบการค้าขายรถยนต์ จึงมิใช่บุคคลผู้เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๖๕(๑) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จึงนำอายุความตามมาตรานี้มาใช้บังคับแก่คดีไม่ได้
พิพากษากลับ เป็นให้จำเลยใช้เงิน ๑๐๙,๗๖๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแล้วรับโอนทะเบียนรถยนต์และรับมอบรถยนต์ไปจากโจทก์

Share