คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4(2) บัญญัติไว้ชัดแจ้งว่า เครื่องกระสุนปืนหมายความรวมตลอดถึงลูกระเบิดด้วย ฉะนั้น ลูกระเบิดตามสภาพจึงเป็นเครื่องกระสุนปืน ตามกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกระเบิดชนิดที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเครื่องกระสุนปืน หรือไม่ก็ตาม
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีลูกระเบิด ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7 แม้ไม่บรรยายฟ้องว่าลูกระเบิดที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารจำนวน ๑ ลูก ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกติดตัวไปในเมือง หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๑ มาตรา ๓ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๖ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ปรับ ๑๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ ๕๐ บาท ข้อหามีลูกระเบิด ซึ่งเป็นเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองให้ยกฟ้อง เพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าลูกระเบิดดังกล่าวคล้ายคลึงกับเครื่องกระสุนปืน จึงยันฟังไม่ได้ว่าเป็นเครื่องกระสุนปืน ตามมาตรา ๔ (๒) แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ และแม้จะฟังว่าเป็นเครื่องกระสุนปืน โจทก์ไม่ได้บรรยายว่าเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ จึงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๕) ประกอบด้วย มาตรา ๑๖๑ ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๑ มาตรา ๓ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๖ อีกกระทงหนึ่ง คงจำคุก ๕ ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลงโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๒ ปี รวมกับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ที่ศาลชั้นต้นปรับ ๕๐ บาท รวมเป็นลงโทษจำคุก ๒ ปี ปรับ ๕๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๔ (๒) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๑ มาตรา ๓ เครื่องกระสุนปืนหมายความรวมตลอดถึงลูกระเบิดด้วย ฉะนั้น ลูกระเบิดตามสภาพจึงเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกระเบิดชนิดที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเครื่องกระสุนปืนหรือไม่ก็ตาม
ที่จำเลยฎีกาว่า แม้ลูกระเบิดจะเป็นเครื่องกระสุนปืน แต่พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ บัญญัติห้ามเฉพาะไม่ให้ผู้ใดมีเครื่องกระสุนปืน ซึ่งไมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้เท่านั้น หาได้ห้ามเด็ดขาดทุกกรณีไม่ ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่า ลูกระเบิดที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเป็นเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยใช้กับอาวุธปืนที่ตนมิได้รับใบอนุญาตให้มี และใช้ จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗ หาใช่มาตรา ๘ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๕) แล้ว หาเคลือบคลุมไม่
พิพากษายืน

Share