คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2427/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์มิได้นำหนังสือมอบอำนาจให้ ส.บอกกล่าวบังคับจำนองมาแสดงต่อศาล แต่เมื่อ ส.บอกกล่าวบังคับจำนองในนามของโจทก์ และโจทก์ยอมรับเอกสารบังคับจำนองที่ ส. บอกกล่าวแล้ว ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ให้สัตยาบันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 823 และถือได้ว่าโจทก์ได้บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยผู้จำนองแล้ว (อ้างฎีกาที่ 795/2495)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจำนองที่ดินโฉนดที่ ๓๘๙๒ ไว้กับโจทก์เป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท จำเลยค้างดอกเบี้ย ๓ ปี ๓ เดือน เป็นค่าดอกเบี้ย ๑๔๖,๒๕๐ บาท จำเลยชำระให้โจทก์เพียง ๕๐,๐๐๐ บาท นอกนั้นไม่ชำระให้ โจทก์มอบให้ทนายจำเลยมีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยจัดการไถ่ถอนจำนอง จำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลบังคับจำเลยนำต้นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๙๖,๒๕๐บาทชำระแก่โจทก์เพื่อไถ่ถอนจำนอง ฯลฯ
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๓๙๖,๒๕๐ บาทกับดอกเบี้ย หากจำเลยไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาดชำระหนี้ให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้จำนอง มีเพียงจดหมายของนายสุวิทย์ เผดิมชิต อ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ และโจทก์มิได้นำหนังสือมอบอำนาจให้นายสุวิทย์บอกกล่าวบังคับจำนองมาแสดงต่อศาล รับฟังไม่ได้ว่าได้มีการมอบอำนาจให้นายสุวิทย์เป็นผู้บอกกล่าวบังคับจำนอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าแม้โจทก์มิได้นำหนังสือมอบอำนาจให้สุวิทย์ บอกกล่าวบังคับจำนองมาแสดงต่อศาล แต่เมื่อ ส.บอกกล่าวบังคับจำนองในนามของโจทก์ และโจทก์ยอมรับเอกสารบังคับจำนองที่สุวิทย์ บอกกล่าวแล้ว ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ให้สัตยาบันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๒๓ และถือได้ว่าโจทก์ได้บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยผู้จำนองแล้ว เทียบตามนับคำพิพากษาฎีกาที่ ๗๙๕/๒๔๙๕
พิพากษายืน
(สงวน สิทธิไชย อุดม จาละ ปรีชา สุมาวงศ์)

Share