แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้าย ช.และ ส.ฝ่ายเดียวตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 256 ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นกรณีวิวาทต่อสู้กันถึงตาย ดังนี้ จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 253 ไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1232/2481 และ ฎีกาที่ 740/2482)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลย ๙ คนสมคบกันใช้มีด ขวาน และไม้ตะบองเป็นสาตราวุธ ฟันแทง และตีทำร้ายร่างกายนายชื่นบาดเจ็บสาหัส โดยเจตนาจะฆ่าให้ตายนายชื่นได้ถึงแก่ความตาย เพราะพิษบาดแผลนั้น และจำเลยสมคบกันฟันและแทง และตีนายสินมีบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙,๒๕๖,๖๓,๗๒ จำเลยปฏิเสธ ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นกรณีวิวาททำให้คนตาย แต่ไม่ปรากฎชัดว่าจำเลยคนใดทำร้ายอย่างใดบ้าง พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ ๒ ปีตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๓ เพิ่มโทษนายชนจำเลยคงจำคุก ๒ ปี ๘ เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลยพ้นข้อหา
อัยยการโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทำร้ายนายชื่นนายสินฝ่ายเดียว ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๔๙,๒๕๖ ข้อเท็จจริงได้ความว่า เป็นกรณีวิวาทต่อสู้กันถึงตาย ศาลจะลงโทษตามมาตรา ๒๕๓ ไม่ได้
พิพากษายืน