คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1563/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์ที่บรรยายว่า บุคคลสามคนซึ่งเป็นกรรมการบริษัทจำเลย หลอกลวงให้โจทก์ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง โจทก์ตกลงรับซื้อ และบริษัทจำเลยได้ออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ โจทก์ได้ชำระเงินค่าหุ้นไปแล้ว ความจริงมิได้มีการโอนหุ้นให้แก่โจทก์ และทั้งไม่สามารถโอนหุ้นได้ด้วย เพราะหุ้นของผู้ถือคนนั้นได้นำไปค้ำประกันหนี้บุคคลอื่นก่อน โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินที่โจทก์ต้องเสียไปในการซื้อหุ้นดังกล่าวนั้น ถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าถ้าไม่มีการโอนหุ้นและโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นจริงดังที่บริษัทจำเลยออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ ก็ย่อมเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย และจำเลยก็ได้ชื่อว่าได้ทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย ฟ้องของโจทก์เช่นนี้จึงควรได้รับการพิจารณาต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่ ากรรมการบริษัทจำเลย ๓ คนร่วมกับบุคคลภายนอกสมคบกันฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ โดยเสนอแก่โจทก์ว่าร้อยตำรวจโทสมพลผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของบริษัทจำเลยประสงค์จะขายหุ้น ๑๑๐ หุ้น มูลค่าหุ้นเป็นเงิน ๑๑๐,๐๐๐ บาท กรรมการ ๓ คนนั้น สามารถจัดการโอนหุ้นดังกล่าวให้โจทก์ได้ โจทก์หลงเชื่อตกลงรับซื้อหุ้นนั้นไว้ ในที่สุดบริษัทจำเลยได้ออกใบหุ้น ๑๑๐ หุ้นให้โจทก์ต่อมาโจทก์จึงทราบว่าหุ้นของร้อยตำรวจโทสมพล มิได้โอนให้แก่โจทก์จึงขอให้พิพากษาว่าการโอนหุ้นดังกล่าวซึ่งบริษัทจำเลยออกให้โจทก์ตลอดจนกิจการของบริษัทจำเลยที่โจทก์กระทำไปในฐานะผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัทเป็นโมฆะ ให้บริษัทจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๑๑๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วสั่งงดสืบพยานวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์กำกวม เห็นว่าฟ้องของโจทก์ไม่ก่อให้เกิดสิทธิต่อจำเลยที่จะให้พิพากษาตามฟ้อง พิพากษายกฟ้องโจกท์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อความตามฟ้องของโจทก์มีความหมายว่า บริษัทจำเลยออกใบหุ้นให้แก่โจกท์โดยไม่มีใบหุ้นตามใบหุ้นที่ออกให้ และการที่จำเลยออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ก็เนื่องจากโจทก์รับโอนหุ้นของร้อยตำรวจโทสมพล แต่ความจริงหุ้นของร้อยตำรวจโทสมพลนำไปประกันหนี้อยู่กับคนอื่น ไม่ได้นำมาโอนและจะนำมาโอนไม่ได้ จำเลยยังออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ ทำให้โจทก์เข้าใจว่าได้มีการโอนหุ้นโดยชอบ และจำเลยได้ออกใบหุ้นให้แก่โจทก์โดยชอบ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหายศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าไม่มีการโอนหุ้นและโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นจริงดังที่จำเลยออกใบหุ้นให้แก่โจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย ก็ได้ชื่อว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อโจทก์ด้วย ซึ่งจำเลยอาจต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ เห็นว่าฟ้องของโจทก์ควรได้รับการพิจารณาต่อไป
พิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

Share