คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่จะเป็นตรัสต์นั้น ต้องมีข้อความเห็นได้ว่า ยกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผ้ได้รับกรรมสิทธ์นั้นจะตอ้งใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนี่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอนหรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน การที่สั่งไว้ในพินักรรม์ว่าให้เก็บผลประโยชน์ทรัพย์ของผู้วายชนมไว้สำหรับทำบุญให้ผู้วายชนม์ ต่อไปนั้น เป็นคำที่กว้างไม่แน่นอนว่าอะไร ต้องเข้าใจว่าเพียงแต่ผู้วายชนม์ได้แสดงความประวงค์ไว้เช่นนั้นยังไม่ใช่ตรัสต์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยมีสิทธิได้รับมฤดกที่ดินโฉนดที่ ๒๑๙๗ ตำบลถนนเจริญกรุง พระนคร จึงทำสัญญาปราณีประนอมยอมความแบ่งเป็น ๘ ส่วน โจทก์มีส่วนได้ทั้งหมดรวม ๔ ส่วน เป็นเงิน ๕๘๙๒ บาท ๕๐ สตางค์ จึงฟ้องขอแบ่ง
จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่า ทำสัญญาปราณีประนอมไปโดยสำคัญผิดในสิ่งที่เป็นสาระสำคัญ ที่แปลงนี้เดิมเป็นของนางพัน ๆ ทำพินัยกรรม์สั่งไว้ให้เก็บผลประโยชน์ทำบุญ ไม่ได้ระบุไว้ให้เป็นกรรมสิทธของผู้ใด นางพันตายแล้ว นางสาวก้อนได้ลงชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิและได้ปกครองมาโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า ๑๐ ปีแล้ว นางสาวก้อนย่อมได้กรรมสิทธิ์ และนางสาวก้อนตายแล้ว จึงตกได้แก่จำเลยที่ ๑ พระยาภรตราชสุพิธผู้ถือพินัยกรรม์ นางพันบอกว่าโจทก์มีส่วนได้ในที่แปลงนี้ตามพินัยกรรม์ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น จำเลยได้บอกล้างเจตนาไปยังโจทก์แล้ว
จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่า ไม่ได้ครอบครองที่พิพาทและต่อสู้อย่างจำเลยที่ ๑
ศาลแพ่ง เห็นว่า นางพันมีเจตนาก่อตั้งตรัสต์ โดยให้นางสาวก้อนเป็นตรัสตี และนางพันตายก่อนใช้ ป.พ.พ. จึงย่อมมีผลบังคับได้ ไม่มีทางจะแบ่งแยกให้โจทก์ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า พินัยกรรม์ของนางพัน มีความว่า นางพันมีบุตรหญิงชายรวมกัน ๖ คน จึงระบุแบ่งทรัพย์ให้เป็นคน ๆ ไปพอถึงนางสาวก้อนบุตรสาว พินัยกรรม์กล่าวว่า ที่ดินริมถนนเจริญกรุงตามที่หมายอักษร จ.ในแผนที่ ให้แก่อำแดงก้อน กับให้อำแดงก้อนได้ที่บ้านที่หมายเส้นสีแดงกับเรือนและทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ ที่เหลือจากแบ่งให้แก่บุตรทั้ง ๕ คน ส่วนที่ดินที่ตึกที่ตรอกโรงโคมนั้น ให้อำแดงก้อนขายเอาเงินไว้สำหรับทำบุญหรือทำศพให้แก่นางพัน เมื่อทำศพแล้วมีเหลือเท่าใดให้แก่อำแดงก้อนทั้งสิ้น ส่วนโรงแถว ๗ ห้องกับที่ดินทางเดินในที่นั้นที่หมายเส้นแดงในแผนที่นั้น ให้อำแดงก้อนเก็บผลประโยชน์ในที่นั้นไว้สำหรับทำบุญให้นางพันต่อไป
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จะเป็นตรัสต์นั้นต้องมีข้อความเห็นได้ว่ายกกรรมสิทธิในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่าผู้ได้รับกรรมสิทธิ์นั้นจะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือหลายคนอันกำหนดตัวแน่นอน หรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน การสั่งเพียงว่าให้ทำบุญนี้เป็นคำกว้างไม่แน่นอนว่าอะไร เมื่ออ่านพินัยกรรม์แล้วต้องเข้าใจว่า เพียงแต่นางพันได้แสดงความประสงค์ไว้เช่นนั้น ยังไม่ใช่ตรัสต์
จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างให้ศาลแพ่งดำเนินการพิจารณาใหม่ตามรูปความ

Share