แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายเป็นน้องสาวจำเลย จำเลยพูดสั่งสอนผู้ตาย ผู้ตายโกรธและโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยโดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จำเลยคว้าได้มีดและแทงไป 1 ที ถูกผู้ตายที่ซอกคอ แผลลึก 3 นิ้วครึ่ง ถือไม่ได้ว่าจำเลยสมัครใจจะวิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันกับผู้ตาย เห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายร่างกายนางบัวลอย แก้วสาลี ๑ ที ถูกที่ซอกคอโดยมีเจตนาฆ่า นางบัวลอยถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ จำคุกจำเลย ๑๘ ปี ปรานีลดโทษหนึ่งในสาม คงจำคุก ๑๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาเพื่อป้องกันตัว แต่เกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๐ ประกอบด้วยมาตรา ๒๙๐,๖๘ และ ๖๙ จำคุกจำเลย ๓ ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ก่อนเกิดเหตุทำร้ายกัน จำเลยพูดจาสั่งสอนผู้ตายซึ่งเป็นน้องสาว ผู้ตายโกรธและโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยโดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จำเลยคว้าได้มีดและแทงไป ๑ ที มีดถูกผู้ตายที่ซอกคอ แผลลึก ๓ นิ้วครึ่ง ผู้ตายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาเห็นว่า พฤติการณ์ถือไม่ได้ว่าจำเลยสมัครจะวิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันกับผู้ตาย รูปคดีเห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ จริงอยู่มีดที่จำเลยใช้แทงทำร้ายผู้ตายเป็นอาวุธร้ายแรงอาจทำให้ถึงตายได้ แต่ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนค่ำมืด จำเลยแทงขณะที่ผู้ตายกระโดดเข้าไปหาจำเลยและแทงเพียงทีเดียว มิได้ซ้ำเติม คดีก็ไม่ได้ความว่าจำเลยแทงโดยแรง เหตุที่ผู้ตายมีบาดแผลลึกมากอาจเนื่องจากกำลังแรงที่ผู้ตายกระโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลย ประกอบกับจำเลยใช้มีดแทงมา จึงทำให้เกิดบาดแผลลึก อนึ่ง ผู้ตายเป็นน้องสาวจำเลยแท้ ๆ คดีไม่มีเหตุถึงกับจะฆ่ากันให้ตาย เฉพาะลักษณะของมีดและบาดแผลจึงยังไม่พอที่จะชี้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดตัดสินลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา เพื่อป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุนั้น ชอบด้วยรูปคดีแล้ว
พิพากษายืน.