คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ยึดที่ดินมีชื่อผู้ตายซึ่งจำเลยและผู้ร้องเป็นผู้รับมฤดก เมื่อผู้ร้องอ้างว่าได้แบ่งปันมฤดกตกได้แก่ตนผู้เดียวดังนี้ ผู้ร้องต้องนำสืบ

ย่อยาว

โจทก์ยึดที่ดินโฉนดที่ ๕๘๕๘ ของจำเลย นายพรมร้องขัดทรัพย์
ข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวน ได้ความว่า โฉนดที่ ๕๘๕๘ มีชื่อนางพลอยนางเนยถือกรรมสิทธิร่วมกัน นางเนยเป็นภริยาจำเลยผู้ร้องเป็นบุตรนางเนยเกิดแต่สามีเดิม
ศาลชั้นต้น วินิจฉัยว่า นางเนยผู้มีชื่อในโฉนดได้ตายมากว่า ๑๐ ปีแล้ว ยังหาได้มีการแก้ทะเบียนไม่ โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความว่า จำเลยเป็นลูกหนี้ยังได้ครอบครองอยู่ หาได้ละทิ้งไม่ แต่โจทก์สืบไม่ได้ พิพากษาให้ถอนการยึด
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เมื่อโฉนดมีชื่อนางเนยก็ต้องฟังว่ายังไม่ได้แบ่ง ผู้ร้องเถียงว่าเป็นของผู้ร้อง ๆ จะต้องนำสืบให้ได้ความชัดว่า ได้ใช้สิทธิครอบครองฝ่ายเดียวโดยจำเลยไม่เกี่ยวข้อง แต่พะยานผู้ร้องฟังไม่ได้ คดีคงได้ความว่าผู้ร้องและจำเลยต่างออกอยู่ที่อื่น ปล่อยที่พิพาทร้างไว้ ต้องฟังว่าที่พิพาทเป็นสินสมรส จำเลยได้สองส่วน นางเนยหนึ่งส่วน ๆ ของนางเนยเป็นมฤดกได้แก่จำเลยและผู้ร้องคนละครึ่ง ส่วนของจำเลยโจทก์ยึดได้ จึงพิพากษากลับให้โจทก์ยึดส่วนได้ของจำเลย
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่าเมื่อที่พิพาทมีโฉนดมีชื่อนางเนยถือกรรมสิทธิผู้ร้องอ้างว่าการเป็นเจ้าของโทษทางรับมฤดกแต่ผู้เดียวย่อมมีหน้าที่นำสืบว่า ได้มีการแบ่งชั้นมฤดกกับแล้ว หรือได้ครอบครองมาโดยลำพังเมื่อคำพะยานผู้ร้องเชื่อฟังไม่ได้ คดีผู้ร้องไม่มีทางชนะ จึงพิพากษายืน

Share