คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1163/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานกระทำอนาจารซึ่งมิใช่ต่อหน้าธาระกำนัลนั้น ถ้าอัยการโจทก์มิได้กล่าวว่าเจ้าทุกข์มอบคดีให้ว่ากล่าวมาในฟ้องแล้วศาลต้องติดสินยกฟ้อง อ้างฎีกาที่ 421/2479 ฎีกาอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม ม.338(3) จำคุก 1 เดือน ศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยทำผิด 2 บทตาม ม.246 และ 254 แต่ให้ลงโทษตามบทหนักคือ ม.246 จำคุก 1 ปีจำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ปัญหาที่ว่าบาดแผลที่ผู้ถูกทำร้ายได้รับนั้นถึงบาดเจ็บหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยได้เรียกเด็กหญิง ศ.ซึ่งเลี้ยงกระบืออยู่ให้ไปหาจำเลย แล้วกอดปล้ำให้ ศ.นอนอลงใช้ต้นบุกแยงของลับของ ศ.จนโลหิตไหล
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บให้ลงโทษตามกฎหมายอาญาม.๓๓๘ ข้อ ๓ จำคุก ๑ เดือน
ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยทำความผิด ๒ บทฐานทำอนาจารตาม ม.๒๔๖ และฐานทำร้ายร่างกายตาม ม.๒๕๔ แต่ให้ลงโทษตาม ม.๒๔๖ ซึ่งเป็นบทหนักบทเดียวจำคุก ๑ ปี
ศาลฎีกาตัดสินว่าเรื่องนี้มีปัญหาว่าโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่า ศ.เจ้าทุกข์ได้มอบคดีให้เจ้าพนักงานว่ากล่าว จึงจะลงโทษจำเลยตาม ม.๒๔๖ ได้หรือไม่นั้นเป็นข้อสำคัญตาม ม.๒๔๘ เพราะมาตรานี้บัญญัติไว้ว่าถ้าจำเลยทำผิดตาม ม.๒๔๖ มิใช่ต่อหน้าธาระคำนักเจ้าพนักงานก็ฟ้องขอให้ลงโทษไม่ได้ เว้นแต่เจ้าทุกข์จะร้องขอ ฉะนั้นเมื่อโจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าเจ้าทุกข์ได้มอบคดีให้ว่ากล่าวแล้ว ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ดังตัวอย่างฎีกาที่ ๔๒๑/๒๔๗๙ ส่วนที่ว่าการกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้ ศ.ถึงบาดเจ็บหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริงให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๕๔ แต่บทเดียว มีกำหนด ๑ ปี

Share