คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของรวมแต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับทรัพย์ซึ่งตนมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1359 โดยไม่ต้องรับมอบอำนาจจากเจ้าของรวมคนอื่น ๆ
เมื่อจำเลยอ้างสิทธิว่าที่พิพาทจำเลยปลูกสร้างเคหะใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ก็ต้องวินิจฉัยตามสภาพที่เป็นจริงแห่งการเช่าว่าเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อประกอบการค้า ซึ่งคู่ความอาจนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงหนังสือสัญญาเช่า อันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 เพราะการเช่าที่มีการอ้างถึงความคุ้มครองเช่นนี้ย่อมฟ้องร้องกันได้ โดยไม่ต้องอาศัยหลักฐานเป็นหนังสือ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่าฐานผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า และได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไปจากที่เช่าแล้ว จำเลยก็ไม่ออก ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ด้วย
จำเลยสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับคนอื่น และใบมอบอำนาจระงับไปแล้วเพราะการตายของผู้มอบอำนาจ จำเลยใช้ที่พิพาทเป็นที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย จำเลยไม่เคยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า โจทก์ไม่ได้บอกเลิกการเช่าล่วงหน้า
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง ที่พิพาทเป็นโรงสินค้าของจำเลย ไม่เป็นเคหะ ไม่เข้าข่ายควบคุม จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่า โจทก์บอกเลิกการเช่าแล้ว ให้ขับไล่จำเลยพร้อมทั้งบริวาร และให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์เป็นเจ้าของรวมในที่พิพาท ลำพังโจทก์แต่ผู้เดียวย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๕๙ โดยไม่ต้องอาศัยใบมอบอำนาจซึ่งเจ้าของรวมคนอื่นทำไว้
ที่จำเลยอ้างสิทธิว่าที่พิพาทจำเลยปลูกสร้างเคหะใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ต้องวินิจฉัยตามสภาพที่เป็นจริงแห่งการเช่าว่าเป็นการเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อประกอบการค้า ซึ่งคู่ความอาจนำสืบพยานบุคคลได้ ไม่เป็นการสืบเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงหนังสือสัญญาเช่าอันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๔ เพราะการเช่าที่มีการอ้างถึงความคุ้มครองเช่นนี้ย่อมฟ้องร้องกันได้โดยไม่ต้องอาศัยหลักฐานเป็นหนังสือ โรงในที่พิพาทไม่เป็นเคหะ และที่พิพาทไม่เป็นที่ดินควบคุม หนังสือสัญญาเช่าครบกำหนดแล้วจำเลยยังอยู่ในที่เช่า เป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในที่พิพาทต่อไป
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย.

Share