แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญานั้น เมื่อฟ้องคดีอาญาก่อน ศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุดแล้ว กรณีเข้าตามมาตรา 51 วรรค 4 ประมวล วิ.อาญา ฉะนั้นเมื่อมาฟ้องทางแพ่งต้องนับอายุความตามหลักทั่วไปในเรื่องอายุความแห่ง ป.ม.แพ่งฯ สำหรับกรณีเรื่องนี้เป็นเรื่องละเมิดโจทก์ต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันรู้ถึงการละเมิดหรือรู้ตัวผู้กระทำผิดเมื่อโจทก์มาฟ้องเกิน 1 ปี นับแต่วันละเมิด คดีโจทก์จึงต้องขาดอายุความตามมาตรา 448 ป.ม.แพ่งฯ
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายในฐานที่จำเลยนำกระบือเทียมเกวียนลงไปเดินในที่นาโจทก์ ซึ่งปลูกข้าวไว้
จำเลยให้การต่อสู้และตัดฟ้องว่า คดีขาดอายุความ
ได้ความว่าตามคำรับของคู่ความว่า กรณีนี้เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ และ ๒๒ กรกฎาคม ๒๔๙๑ โจทก์ได้ทราบเรื่องในวันนั้น และได้นำความไปร้องทุกข์ในวันรุ่งขึ้น จนพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ฐานทำให้เสียทรัพย์ คดีนั้นศาลฎีกา พิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าได้มีการประชุมยินยอมทำทางเพื่อให้เกวียนเดินสดวก ฉะนั้นแม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความชัดเจนว่า ทางนี้เป็นทางสาธารณะหรือไม่ ก็จะเอาผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำไปด้วยความเข้าใจผิดคู่ความฟังคำพิพากษาวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๔๙๓ โจทก์มาฟ้องคดีเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๔๙๓
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีขาดอายุความ จึงพิพากษายกฟ้อง
แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายในฐานะละเมิดนี้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๔๔๘ บัญญัติให้ฟ้องภายใน ๑ ปี นับแต่วันรู้ถึงการละเมิดหรือรู้ตัวผู้กระทำ และคดีนี้โจทก์ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีเข้าตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๕๑ วรรค ๔ สิทธิของโจทก์จะฟ้องคดีแพ่ง ย่อมมีอายุความตามหลักทั้วไปในเรื่องอายุความแพ่งแห่ง ประมวลแพ่งฯ ฉะนั้นต้องนับอายุความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๔๔๘ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกิน ๑ ปี นับแต่วันละเมิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ จึงพิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง