แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คันนาซึ่งผู้อื่นเดินผ่านมานานกว่า 10 ปี ย่อมเกิดเป็นภาระจำยอมขึ้น. ภาระจำยอมย่อมเกี่ยวเนื่องกับที่ดิน มิใช่เป็นการส่วนตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินตำบลบางซื่อของโจทก์อยู่หลังที่จำเลยซึ่งติดทางสาธารณะไม่มีทางออก เลยทำทางผ่านที่จำเลยไปออกทางสาธารณะได้ บัดนี้จำเลยขัดขวางจึงขอให้ห้าม ศาลชั้นต้นฟังว่าทางพิพาทเป็นทางจำเป็นของโจทก์ จึงพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิใช้ได้ แต่ต้องเสียค่าทดแทนแก่จำเลย.
โจทก์อุทธรณ์ว่าทางรายพิพาทตกอยู่ในภาระจำยอม โจทก์มีสิทธิใช้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าทดแทน ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คันนารายพิพาท แม้จะเป็นทางใช้เดินผ่านฉะเพาะฤดูทำนาไม่ใช่ตลอดทั้งปี ก็เกิดภาระจำยอมได้เมื่อได้ใช้เดินในทางปรปักษ์มากว่า ๑๐ ปี แต่เห็นว่าควรมีภาระจำยอมในส่วนเท่าที่เป็นคันนาเดิม คือ กว้างประมาณ ๒ ศอก จึงพิพากษาแก้ว่าโจทก์มีสิทธิใช้ทางรายนี้โดยเป็นภาระจำยอมได้ขนาดกว้าง ๒ ศอก.
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าคดีฟังได้ว่าทางเดินในที่ของจำเลยรายนี้ตกอยู่ในภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์จริงที่จำเลยคัดค้านว่าสิทธิใช้ทางเดินรายนี้เป็นส่วนตัวบุคคลนั้น เห็นว่าการที่อสังหาริมทรัพย์ต้องตกอยู่ในภาระจำยอมนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสำคัญของที่ดิน มิใช่เป็นการส่วนตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของ ฉะนั้นแม้โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน จะไม่ได้ใช้ทางเดินนี้เอง แต่คนใดในที่ดินของโจทก์ได้ใช้ทางเดินนี้โดยไม่ต้องรับอนุญาตจากใคร ก็เกิดภาระจำยอมได้จึงพิพากษายืน