คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญากู้เดิมสมบูรณ์ ต่อมาผู้ให้กู้เรียกเอาดอกเบี้ยเกินอัตรา แต่ผู้กู้ไม่ยอมให้ดังนี้ไม่ถือว่าผู้ให้กู้มีความผิด ไม่ถือว่าผู้กู้เป็นผู้เสียหายอันจะฟ้องร้องได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าได้กู้เงินจำเลย ๑๗๕ บาทตกลงให้เอานาโจทก์ทำต่างดอกเบี้ยมีกำหนด ๖ ปี จำเลยบังอาจเรียกเอาดอกเบี้ยจากโจทก์อีกปีละ ๓๐ ปี เกินอัตราในกฏหมาย ขอให้ลงโทษ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าสัญญากู้มิได้ระบุอัตราดอกเบี้ยว ไม่เข้าเรื่องเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะผู้เสียหายที่จะฟ้องร้องได้ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยให้โจทก์กู้เงินแล้วทำนาโจทก์ต่างดอกเบี้ยว และยังเรียกจะเอาดอกเบี้ยจากโจทก์อีกปีละ ๓๐ บาทดังนี้ ยังไม่พอถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายซึ่งจะมีอำนาจฟ้องร้องได้เพราะสัญญากู้ฉะบับเดิมสมบูรณ์ดี แม้ต่อมาจำเลยจะเรียกเอาดอกเบี้ยเกินอัตรา แต่โจทก์ยังไม่ตกลงยินยอมด้วย และเป็นเรื่องนอกเงื่อนไขสัญญากู้ฉะบับเดิม จะถือว่าจำเลยกระทำผิดแล้วไม่ได้ จึงพิพากษายืน.

Share