แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ค้างชำระดอกเบี้ยมาเกิน + ปีนั้น ไม่ทำให้ขาดอายุความเรียกดอกเบี้ยทั้งหมดดอกเบี้ยงวดใดค้างชำระไม่เกิน + ปี ก็ไม่ขาดอายุความ.
ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.225,247.
ประเด็นที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในชั้นต้น จะยกเว้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำเลยใช้เงินกู้ ๗๓๙ บาท ๕๐ สตางค์ กับดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับต่อจากวันชำระดอกเบี้ยครั้งที่ ๓ คือวันที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๔ มีกำหนด ๕ ปีกับดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะขำระเสร็จ.
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่จำเลยกล่าวว่าการสลักหลังสัญญากู้ในเรื่องจำเลยส่งดอกเบี้ยนั้นผิดแบบจึงเป็นโมฆะ ศาลจะรับฟังไม่ได้นั้น ศาลฎีกากล่าวว่าจำเลยมิได้ยกขึ้นเถียงมาแต่ชั้นต้น จะยกขึ้นเถียงในชั้นนี้ไม่ได้ข้อที่จำเลยกล่าวว่าวันค้างชำระดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน ๕ ปี การฟ้องเรียกดอกเบี้ยจึงขาดอายุความทั้งหมด ตาม ม.๑๖๖ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ม.๑๖๖ เป็นบทกำหนดอายุความและการนับอายุความนั้นต้องตั้งต้นนับตั้งแต่ค้างชำระเป็นต้นไปแต่วันค้างชำระดอกเบี้ยเป็นเวลาต่าง ๆ กันฉะนั้นวันที่เริ่มนับอายุความจึงไม่เหมือนกันดอกเบี้ยงวดใดค้างชำระไม่ถึง ๕ ปีก็ไม่ขาดอายุความย่อมไม่กะทบกะทั่งถึงดอกเบี้ยงวดอื่นด้วย ข้อเถียงของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้นส่วนดอกเบี้ยตั้งแต่วันฟ้องจนวันชำระเสร็จนั้นไม่มีเหตุให้ขาดอายุความ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง.