คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม ป.พ.พ. มาตรา 9 วรรค 3 ประสงค์เพียงว่า กิจการใดที่กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ เมื่อบุคคลนั้นไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ หากจะพิมพ์ลายนิ้วมือแทน จะต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองอย่างน้อย 2 คน จึงจะมีผลเท่ากับบุคคลนั้นลงลายมือชื่อโดยพยานผู้รับรองไม่จำเป็นต้องรู้ข้อความในเอกสารนั้น ส่วนข้อความในเอกสารจะมีประการใด เป็นข้อเท็จจริงอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งในคดีนี้คู่ความอาจนำสืบได้ตามประเด็น คือเอกสารนี้ปลอมหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยพร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยปฏิเสธข้อเท็จจริง และต่อสู้ว่า สัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาปลอม
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกัน ให้จำเลยใช้ต้นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยฎีกาว่า นายโหน่งพยานโจทก์อ่านหนังสือไม่ออกคงเซ็นต์ได้แต่ชื่อ จึงถือว่าสัญญากู้มีพยานไม่ครบถ้วน ตามกฎหมายนั้น เห็นว่าตาม ป.พ.พ. มาตรา ๙ วรรค ๓ ประสงค์เพียงว่า กิจการใดที่กฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ เมื่อบุคคลนั้นไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ หากจะพิมพ์ลายนิ้วมือแทน จะต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองอย่างน้อย ๒ คน จึงจะมีผลเท่ากับบุคคลนั้นลงลายมือชื่อโดยพยานผู้รับรองไม่จำเป็นต้องรู้ข้อความในเอกสารนั้น ส่วนข้อความในเอกสารจะมีประการใด เป็นข้อเท็จจริงอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งในคดีนี้คู่ความอาจนำสืบได้ตามประเด็น คือเอกสารนี้ปลอมหรือไม่
พิพากษายืน

Share