คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จะขุดหลุมส้วมในระยะสองเมตรจากแนวเขตที่ดินไม่ได้ แม้จะได้ใช้ความระมัดระวังตามควรเพื่อป้องกันมิให้ทรายพังลงหรือมิให้น้ำหรือสิ่งโสโครกซึมได้ก็ตาม
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 28/2505)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยละเมิดแดนกรรมสิทธิ์ โดยให้ลูกจ้างขุดดินตั้งหลุมส้วมในที่ดินจำเลย ห่างแนวเขตที่ดินโจทก์เพียง ๔๓ เซ็นต์ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย ที่ดินโจทก์อาจพังทลายเพราะขาดการอาศัยพักพิงความหนาแน่นซึ่งกันและกัน หรือน้ำโสโครกอาจซึมเข้าไป โจทก์ได้ห้ามขุดและบอกจำเลยถม จำเลยก็เพิกเฉย จึงขอให้บังคับจำเลยเอาดินถมหลุดที่ขุดแล้วกระทุ้งให้แน่นมีสภาพเดิมภายในระยะ ๒ เมตร ถ้าจะขยับจากแนวเขตที่ดินห่างออกไป ๒ เมตร ก็ให้จำเลยกระทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันมิให้ดินพังทลาย หรือมิให้น้ำหรือสิ่งโสโครกซึมเข้าไป
จำเลยให้การว่า ได้ขุดหลุมส้วมด้วยความระมัดระวัง ทำด้วยอิฐถือปูนมั่นคงแข็งแรงถาวรพอ มีกำลังต้านทานมิให้ดินหรือทรายพังทลาย ทั้งป้องกันสิ่งโสโครกรั่ว ซึม ถูกต้องตามแบบของกรมอนามัยแล้ว
ศาลชั้นต้นเผชิญสืบดูสภาพที่พิพาทแล้วโจทก์ไม่สืบพยาน แต่จำเลยสืบ ๒ ปาก
ปรากฎตามรายงานซึ่งศาลชั้นต้นจดไว้เมื่อคราวเผชิญสืบว่า จำเลยขุดหลุมทำเป็นส้วมซึม ก่ออิฐถือปูน กำแพงชั้นนอกหลุมส้วมห่างจากรั้วแนวเขตที่ดินโจทก์ ๑ เมตร ๑๓ เซ็นติเมตร กำแพงหลุมส้วมหนา ๑๐.๕ เซ็นติเมตร หลุมส้วมลึก ๑ เมตร ๓๒ เซ็นติเมตร และปรากฎตามคำสารวัตรสุขาภิบาลและแพทย์ประจำสถานีอนามัย พยานจำเลยว่า เป็นส้วมที่มั่นคงแข็งแรงสามารถป้องกันมิให้ดินทรายพังทลาย น้ำก็ไม่อาจซึมออกไปได้ ถูกสุขลักษณะกรมอนามัย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยปลูกสร้างหลุมส้วมโดยใช้ความระมัดระวังตามสมควร เพื่อป้องกันความเสียหายอันจะเกิดขึ้นดังที่บัญญัติไว้ในวรรค ๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๓๔๒ แล้ว ไม่มีเหตุจะบังคับจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่วินิจฉัยว่า บทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๓๔๒ นั้น ความในวรรคสามมิใช่ข้อยกเว้นของความในวรรคหนึ่ง เพราะถ้าไม่ถือการห้ามขุด บ่อ สระ หลุม ห่างแนวเขต ๒ เมตรเป็นหลักสำคัญ โดยถือว่าผู้ใดจะขุดใกล้แนวเขตที่ดินเท่าใดก็ได้เมื่อใช้ความระมัดระวังตามสมควรเพื่อไม่ให้ดินหรือทรายพังลง หรือไม่ให้น้ำหรือสิ่งโสโครกซึมเข้าไปเป็นสำคัญแล้ว ก็ไม่จำต้องบัญญัติความในวรรคหนึ่งไว้ด้วย เพราะความในวรรคสามนี้มีความหมายกินความคลุมถึงความในวรรคหนึ่งข้างต้นอยู่ด้วย เมื่อตัวบทแปลความหมายได้ดังกล่าวมา จำเลยก็ต้องปฏิบัติตาม โดยจำเลยไม่มีสิทธิที่จะขุดหลุมส้วมในที่ดินของตนภายในระยะ ๒ เมตรจากแนวเขตที่ดินของโจทก์ได้ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยถึงปัญหาที่ว่าหลุมส้วมของโจทก์มั่นคงแข็งแรงป้องกันการพังและน้ำหรือสิ่งโสโครกรั่วซึมได้หรือไม่ต่อไป
จึงพิพากษากลับ ให้จำเลยถมหลุมส้วมและปรับปรุงพื้นที่ดินให้เป็นไปตามสภาพเดิม

Share