คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของที่ดินเดิมทำสัญญาให้เจ้าของที่ดินข้างเคียงใช้ทางเดินผ่านที่ดินของตนได้ เมื่อมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ ข้อสัญญานี้ไม่ผูกมัดผู้ซื้อที่ดินจากเจ้าของเดิมนั้น,
ที่ดินแปลงเดียวเจ้าของเดียวกันไม่มีภาระจำยอม,ที่ดินแปลงใหญ่เดิมเป็นของเจ้าของเดียวกัน และทางรายพิพาทอยู่ในที่แปลงนี้ ต่อมาได้มีการแบ่งแยกโฉนดที่ดินนี้ออกเป็น 4 แปลงต่างเจ้าของกัน ทางเดินรายพิพาทไปตกอยู่ในที่ดินแปลงหนึ่งดังนี้ อายุความในภาระจำยอมเหนือทางที่ดินรายนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อได้มีการแบ่งแยกที่ดิน เป็นต้นไป เมื่อยังไม่ถึง 10 ปี ภาระจำยอมก็ยังไม่เกิด+

ย่อยาว

ที่ดินของโจทก์ทั้ง ๓ กับของจำเลยเดิมเป็นที่แปลงเดียวกันโดยเป็นของบิดามารถาโจทกืทั้ง ๓ และ พ. บิดาโจทก์ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๐ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้มีการแบ่งแยกที่ดินออกเป็น ๔ แปลงเป็นของโจทก์และ พ. คนละแปลงทางเดินรายพิพาทอยู่ในที่ดินของ พ.และเป็นทางเดินมาแต่เดิม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๐ พ.ขายที่แปลงของตนให้จำเลย ๆ จึงปิดทางเดินนี้เสีย โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดทางเดินรายนี้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาตัดสินว่าอายุความที่จะเกิดภาระจำยอมในทางรายพิพาทนี้ต้องเริ่มนับแต่เมื่อแบ่งแยกโฉนดที่รายนี้เมื่อปี ๒๔๗๖ เพราะเมื่อก่อนแบ่งแยก โจทก์ทั้ง ๓ และ พ. เป็นผู้มีกรรมสิทธิเป็นเจ้าของในที่ดินร่วมกันเมื่อเป็นเจ้าของร่วมกันแล้วภาระจำยอมก็ไม่เกิดขึ้น เพราะต่างคนก็ต่างเป็นเจ้าของมีสิทธิจะใช้ประโยชน์ได้ด้วยกัน อนึ่งภาระจำยอมตาม ม.๑๓๘๗ ก็เพื่อประโยชน์ของอสังหาริมทรัพย์อื่นคือที่แปลงอื่น หาใช่ที่แปลงเดียวกันไม่ จึงเห็นได้ชัดว่าอายุความในเรื่องภาระจำยอมจะเกิดมีขื้นเมื่อแบ่งแยกที่ดินแล้วเมื่อยังไม่ถึง ๑๐ ปีนับแต่วันแบ่งแยกโจทก์จะอ้างอายุความขึ้นมิได้ ส่วนที่โจทก์อ้างว่าได้ตกลงกับ พ.ให้เปิดทางรายพิพาทไว้นั้น ข้อตกลงมิได้จดทะเบียนตาม ม.๑๒๙๙ จะยกขึ้นผูกมัดจำเลยซึ่งเป็นคนภายนอกมิได้ ศาลล่างตัดสินชอบแล้ว ยืนตาม

Share