แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไม้ไผ่กะบอกโตเท่าข้อมือยาว 1 แขนอาจใช้ทำร้ายร่างกายถึงสาหัสนั้น เพียงแต่เงื้อขึ้นจะทำร้ายก็นับว่าได้ใช้เป็นเครื่องประหารแล้วนับว่าเป็นสาตราวุธ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.3 ศาลเดิมให้จำคุก 10 ปี ตามมาตรา 301 ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 3 ปีตาม ม.299 นับว่าแก้มาก คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยกับพวกรวม ๓ คน ได้เข้าไปลักทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปรวมราคา ๒๗ บาท ๒๕ สตางค์ เมื่อจำเลยคนหนึ่งเข้ายกหีบเก็บทรัพย์ เจ้าทรัพย์เข้าขัดขวาง จำเลยอีกคน ๑ กดคอไว้แล้วคนที่ยกหีบเงื้อไม้ไผ่จะตีเจ้าทรัพย์ แต่คนกดคอห้ามไว้จึงไม่ได้ตี ไม้ไผ่ที่เงื้อนั้นเป็นไม้กะบอกโต เท่าข้อมือยาว ๑ แขนเป็นไม้กลวง
ศาลเดิมลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๐๑ จำคุกคนละ ๑๐ ปี
ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษจำเลยตามม.๒๙๙ โดยกล่าวไม้ไผ่นั้นไม่ใช่สาตราวุธคงให้จำคุกคนละ ๓ ปี
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม้นั้นได้ใข้เป็นเครื่องประหานโดยเงื้อขึ้นแล้ว และไม้นั้นอาจทำร้ายได้ถึงสาหัสนับว่าเป็นสาตราวุธ จึงพิพากษาลงโทษจำเลยยืนตามศาลเดิม