คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมที่ดินและตึกพิพาทเป็นของโจทก์ให้ผู้ร้องเช่าอยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่ามาก่อนแล้วต่อมาโจทก์โอนขายตึกให้จำเลยโดยไม่ขายที่ดินซึ่งมีเนื้อที่เพียงเท่าที่ตัวตึกตั้งอยู่ จำเลยรับซื้อตึกแล้วขอเช่าที่ดินเพียง 1 ปี พอซื้อแล้วจำเลยก็ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าที่ดินให้โจทก์เลย โจทก์จึงฟ้องและศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย ดังนี้ จะเอาผลคำพิพากษานั้นมาบังคับขับไล่ผู้ร้องด้วยหาได้ไม่

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่ดินและตึกพิพาทเดิมเป็นของโจทก์ให้ผู้ร้องเช่าอยู่อาศัยมาก่อนแล้ว ต่อมาโจทก์โอนขายตึกให้จำเลยโดยไม่ขายที่ดินด้วย ทั้งๆ ที่ดินมีเพียงเท่าที่ตัวตึกตั้งอยู่ จำเลยรับซื้อตึกแล้วขอเช่าที่ดินระยะเวลาเดียงปีเดียว พอซื้อแล้วจำเลยก็ผิดสัญญา ไม่ชำระค่าเช่าเลย
โจทก์จึงฟ้องขับไล่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินโจทก์และให้ใช้ค่าเช่าที่ค้าง ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินโจทก์ต่อไป
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยออกจากโรงเรือนแล้ว แต่ยังไม่รือ้ถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปเพราะนาย ณ ลำเจียก นางตาด กับบุคคลอื่นซึ่งเป็นบริวารของจำเลยไม่ยอมขนย้ายออกจากโรงเรือน ขอให้เรียกมาสอบถาม
นาย ณ ลำเจียก กับนางตาดยื่นคำร้องมีข้อความตามที่ได้ความเป็นข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น
คู่ความไม่สืบพยาน
ศาลแพ่งเห็นว่า การที่ผู้ร้องเช่าตึกจากจำเลยโดยจำเลยเช่าที่ดินโจทก์นั้น มิใช่เป็นการเช่าช่วง เมื่อจำเลยหมดสิทธิที่จะอยู่ต่อไป ผู้ร้องซึ่งอาศัยสิทธิจำเลยก็พลอยหมดสิทธิไปด้วย ผู้ร้องจึงเป็นบริวารของจำเลย ไม่มีสิทธิจะอยู่ในที่ดินรายนี้มีคำสั่งให้ผู้ร้องออกจากที่ดินพิพาท
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่ต้องการให้ผู้ร้องเช่าตึกพิพาทต่อไป แต่ติดขัดด้วยพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ คุ้มครองผู้ร้องอยู่ โจทก์จัดการอะไรกับผู้ร้องไม่ได้ จึงหาทางกำจัดผู้ร้อง โดยสมรู้กับจำเลยวางแผนโอนขายตึกพิพาทให้จำเลยเสียแล้วฟ้องขับไล่จำเลย เป็นการใช้สิทธิไม่สุขริต ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ๆ โจทก์ไม่มีสิทธิจะมาขอให้ศาลยังคับขับไล่ผู้ร้องได้ พิพากษากลับคำสั่ง ศาลชั้นต้นว่าผู้ร้องมีสิทธิที่จะอยู่ได้โดยได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงที่ได้ความดังกล่าวข้างต้น เป็นที่เห็นได้ชัดว่าเป็นอุบายของโจทก์ที่จะขับไล่ผู้ร้องให้ได้โดยใช้วิธีสมยอมกับจำเลยเพื่อหลีกเลี่ยงพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าที่คุ้มครองผู้ร้องอยู่ ผู้ร้องมีสิทธิที่จะใช้พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ยันโจทก์ได้ เพราะได้เช่าตึกพิพาทจากโจทก์มาก่อนโอนให้จำเลย โจทก์จำเลยจะตกลงกันประการใด ก็ไม่เป็นผลให้ขับไล่ผู้ร้องได้เพราะเป็นการกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าที่จะไม่ให้ผู้ร้องใช้สถานที่เช่าตามที่ได้รับคุ้มครอง พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share