คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องไม่ระบุสถานที่เกิดเหตุ เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
การสั่งให้โจทก์แก้ใขหรือเพิ่มเติมฟ้องจะกระทำได้เมื่อก่อนรับฟ้องหรือไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อสืบพะยานเสร็จสิ้นแล้วจะแก้ไขหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าจำเลยบุกรกุก หมิ่นประมาทและแสดงความอาฆาตมาดร้าย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๒๘,๓๒๙,๒๘๒,๓๓๕,๓๐,๗๑,๔๒,
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องของโจทก์แล้วสั่งว่าคดีมีมูล
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นสืบพะยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยยื่นคำแถลงต่อศาลว่าฟ้องของโจทก์มิได้ระบุว่าเหตุเกิดตำบลใด อำเภอใดเป็นฟ้องเคลือบคลุม เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้และเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องของโจทก์อีกครั้งหนึ่ง เห็นว่าเป็นจริงดังโจทก์แถลง เห็นว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ป.วิ.อาญามาตรา ๑๕๘ และคดีได้สืบพะยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว ไม่มีทางจะให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องได้พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘ บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ฟ้องจะต้องระบุสถานที่เกิดเหตุ เมื่อฟ้องของโจทก์มิได้ระบุสถานที่เกิดเหตุ จึงเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ทั้งคดีนี้ได้สืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จสิ้นแล้ว ไม่มีโอกาศจะให้โจทก์แก้ไขหรือเพิ่มเติมฟ้องได้ การสั่งให้โจทก์แก้ไขหรือเพิ่มเติมฟ้องนั้นควรจะได้กรระทำเสียตั้งแต่เมื่อได้สั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องนั้นแล้ว พิพากษายืน

Share