คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2474

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมียฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูจากผัวได้
ชายหญิงเป็นผัวเมียกันได้อย่างไร
อย่ากันโดยคำพังต้องยินยอมด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายฝ่ายใดจะบอกอย่าแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้
ผัวเมียทำสัญญากันไม่ผูกมัดซึ่งกันแลกัน

ย่อยาว

จำเลยเลี้ยงดูโจทก์เป็นภรรยาโดยเปิดเผยเป็นเวลา ๒๐ ปีเศษ จึงได้เกินระหองระแหงกันขึ้น จำเลยจึงทำสัญญากับโจทก์เรียกโจทก์ว่าเป็นคุณหญิงนิวัตร์ ว่าจะยอมจ่ายเงินเดือนละ ๑๐๐ บาท และต่างคนต่างอยู่โดยจำเลยไปได้ภรรยาใหม่ ภายหลังจำเลยเขียนหนังสือถึงกโจทก์ขอย่าโจทก์ไม่ยินยอมอย่าด้วย ครั้นเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๑ จำเลยงดส่งเงินค่าเลี้ยงดู แก่โจทก์ ๆ จึงฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูตามสัญญาที่จำเลยทำไว้
ศาลฎีกาเห็นว่า หนังสืออย่าที่จำเลยส่งไปนั้น ไม่มีผลในกฎหมายเพราะโจทก์ไม่ตกลงด้วยการอย่ากันโดยลำพังจะต้องตกลงใจด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่ายจึงจะใช้ได้ (ผัวเมียบทที่ ๖๕ – ๖๗) แลตามพฤตติการณ์ที่ปรากฎโจทก์จำเลยเป็นผัวเมียกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แลผัวเมียที่เลี้ยงดูเมียให้เป็นธรรม (ผัวเมียบทที่ ๕๕) เมียจึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูจากผัวได้ แต่สัญญาที่จำเลยทำให้โจทก์ว่าจะให้เงินเดือน ๆละ ๑๐๐ บาทนั้น ไม่ผูกมัดจำเลย เพราะโจทก์จำเลยยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ แต่เป็นเครื่องชี้ความเจตนาของจำเลยว่าจะให้เงินโจทก์อยู่ที่ศาลล่างตัดสินให้จำเลยให้ค่าเลี้ยงดูโจทก์เดือนละ ๕๐ บาทตั้งแต่วันที่ค้างส่งเป็นต้นมานั้นสมควรแก่ฐานะของโจทก์แล้ว

Share