คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหากฎหมายชั้นศาลไต่สวนแปลฟ้องข้อใดยังไม่ทันได้สืบพะยานข้อนั้นเป็นปัญหากฎหมาย+กาได้ วิธีพิจารณาอาชญา มูลฟ้อง ฟ้องว่าจำเลยทำหนังสือปลอมจำเลยรับว่าทำขึ้นจริง แต่แก้ว่าทำให้ถูกความจริงดังนี้ คดีของโจทก์มีมูลพอฟ้องร้องทางอาชญา คดีที่ศาลล่างเห็นไม่มีมูลให้ยกเสียแต่ศาลฎีกาเห็นว่ามีมูลต้องย้อนสำนวนให้ศาลล่างดำเนิรการพิจารณาตามระเบียบปลอมหนังสือ ทำหนังสือกู้ขึ้นใหม่ให้ผิดจากฉะบับเดิมอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายได้ตาม ม.222

ย่อยาว

คดีนี้เดิมฟ้องเรียกทรัพย์ของโจทก์แลทรัพย์มฤดกของ น. สามีโจทก์จากจำเลย โจทก์อ้างหนังสือสัญญากู้ ๘ ฉะบับจากจำเลย ศาลออกหมายเรียก แต่จำเลยนำส่งศาลเพียง ๖ ฉะบับอีก ๒ ฉะบับว่าไม่มีอยู่ที่จำเลย แลเอกสารที่ส่ง ๖ ฉะบับนี้โจทก์ว่ามีแท้จริง ๒ ฉะบับอีก ๔ ฉะบับเป็นหนังสือปลอมที่ทำขึ้นใหม่เพราะเดิมมีชื่อ น.สามีโจทก์เป็นผู้ให้กู้ด้วย แต่หนังสือ ๔ ฉะบับนี้ไม่มีชื่อ น. โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ขึ้น
จำเลยรับว่าหนังสือที่โจทก์ค้านนี้จำเลยได้ให้ลูกหนี้ทำขึ้นใหม่เมื่อ น.ตายแล้ว โดยคัดลอกข้อความจากฉะบับเดิมแล้วลงชื่อจำเลยผู้เดียวเป็นผู้ให้กู้เพราะว่าเงินที่กู้เป็นของจำเลยผู้เดียว
ศาลเดิมไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีมีมูลฉะเพาะข้อหาที่จำเลยซ้อนเร้นปิดบังสัญญากู้ ส่วนข้อปลอมแลใช้หนังสือปลอมไม่มีมูลให้ ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ว่าคดีของโจทก์มีมูล
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาเห็นว่าหนังสือสัญญาที่จำเลยทำขึ้นนั้นไม่อาจเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายได้ แลหนังสือสัญญา ๔ ฉะบับ ที่จำเลยนำส่งต่อศาลนี้ไม่ใช่หนังสือฉะบับเดิมเช่นนี้แล้ว คดีโจทก์จึงมีมูลพอที่จะฟ้องร้องได้ จึงพิพากษากลับศาลล่างทั้ง ๒ ให้ศาลล่างดำเนิรการพิจารณาต่อไปตามระเบียบ

Share