คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยบอกคนข้างเคียงว่าจะจุดไฟสุมไร่เพื่อประโยชน์แก่การเกษตรกรรมเช่นเคย ให้ดูแลห้างของคนข้างเคียงไว้เมื่อไฟลุกลามไปไหม้ทรัพย์สินของคนข้างเคียงในลักษณะที่อาจช่วยกันดับได้ทันและไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ระมัดระวังหรือจัดการอย่างใด ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 201

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันจุดเพลิงเผาไร่ของจำเลยที่ ๑ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเรือนของโจทก์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ไหม้บ้านเรือนและทรัพย์สินของโจทก์เป็นราคา ๔๕๕๒ บาท ขอให้ลงโทษตาม ก.ม. ลักษณะอาญา ม.๒๐๑,๖๓
จำเลยทั้งสองปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทั้งสองกับพวกได้จุดไฟเผาสุมไร่แล้วไหม้ทรัพย์ของโจทก์เสียหายจริง พิพากษาจำคุกจำเลย ๓ เดือน และปรับ ๑๐๐ บาท ตาม ก.ม. อาญา ม. ๒๐๑ แต่ได้ความว่าเป็นประเพณีชาวไร่ต้องสุมและเผาป่าอยู่เป็นปกติ ถ้าไฟนั้นไปไหม้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายก็ทำของใช้กันแล้วเป็นสิ้นเรื่อง จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้ มีกำหนด ๓ ปี ตาม ม. ๔๑,๔๒ ประกอบกับที่แก้ไขเพิ่มเติม
จำเลยอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักและขออย่าให้รอการลงโทษแก่จำเลยล
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดียังไม่พอฟังลงโทษจำเลย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจุดเพลิงเผาไร่ โดยประมาท โดยนายเที่ยงจำเลยได้บอกว่าจำเลยจะจุด ไฟสุมไร่เพื่อประโยชน์แก่การเกษตรกรรม เช่นเคยให้นาย+ คอยดูแลห้างของตนเพราะไฟอาจลุกลามไปไหม้ได้ดังนี้ที่เคยเป็นมา พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลจังหวัดลพบุรี

Share