แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญามีกำหนดเวลาจะขอเลิกสัญญาแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำผิดสัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมีอำนาจบอกเลิกสัญญาเสียได้แปลสัญญาให้เป็นผลใช้บังคับกันได้ เงินมัดจำหักเป็นค่าปรับฐานผิดสัญญาจากเงินมัดจำได้
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่าโจทก์ทำสัญญารับซื้อสุราจากจำเลยผู้เป็นยี่กงษีสุราโรงไปจำหน่ายกำหนด ๑ ปี โดยตกลงว่าโจทก์ต้องจำหน่ายให้ได้ ๘๐๐ เทคิดเฉลี่ยเป็นรายเดือน ตั้งแต่เมษายนถึงกุมภาพันธ์ เดือนละ ๖๕ เทแลเดือนมีนาคม ๘๕ เทถ้าเดือนใดโจทก์จำหน่ายได้ไม่ครบยอมให้จำเลยปรับเทละ ๒ บาท ในจำนวนที่ขาด ถ้าครบ ๑ ปีโจทก์จำหน่ายได้เกิน ๘๐๐ เท จำเลยต้องให้รางวัลโจทก์เทละ ๒ บาท ตามสัญญานี้โจทก์ได้วางเงินมัดจำไว้ ๔๐๐ บาท เมื่อทำสัญญาแล้วโจทก์ซื้อสุราไปจำหน่ายไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดแทบทุกเดือน โจทก์ได้ขอเลิกสัญญาในระวางปีแต่จำเลยไม่ยอมครั้นในวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๓ โจทก์มาขอซื้อสุรา ๑๕ เท จำเลยไม่มีขายให้ โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาทันทีขอเงินมัดจำคืน จำเลยไม่ยอมคืนโดยคิดเป็นค่าปรับตามข้อสัญญาที่โจทก์จำหน่ายสุราไม่ได้ครบตามจำนวนที่กำหนด
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์มีอำนาจเลิกสัญญาแต่วันที่จำเลยไม่มีสุราขายให้ตามต้องการและจำเลยมีอำนาจเรียกค่าปรับในจำนวนสุราที่โจทก์จำหน่ายขาด แต่จำเลยจะขอค่าปรับตลอดปีไม่ได้เพราะจำเลยผิดสัญญาที่ไม่มีสุราขายให้โจทก์ ๆ ไม่มีหน้าที่ปฏิบัติสัญญานั้นต่อไป ตามสัญญามีว่าการจำหน่ายสุราให้คิดเฉลี่ยแลปรับเป็นรายเดือนฉะนั้นต้องคิดแต่เดือนเมษายนถึงธันวาคมรวม ๙ เดือนเท่านั้น เศษวันตั้งแต่วันที่ ๑ ถึงที่ ๑๑ มกราคม จำเลยจะคิดด้วยไม่ได้ เพราะยังไม่หมดเดือน โจทก์อาจจะจำหน่ายเกินหรือขาดก็ได้ การจำหน่ายสุราของโจทก์ ๙ เดือน โจทก์จะต้องซื้อสุราตามสัญญารวม ๕๘๕ เท แต่โจทก์ซื้อไปเพียง ๔๑๔ เท คงขาด ๑๗๑ เท คิดเป็นเงินค่าปรับ ๓๔๒ บาท หักจากเงินมัดจำ ๔๐๐ บาท คงเหลือ ๕๘ บาท จำเลยต้องคืนให้โจทก์ไป