แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไม่บัญญัติถึงการชำระหนี้กู้ยืม วิธีพิจารณาแพ่ง หน้าที่จำเลยนำสืบว่าใช้เงินแล้ว ค่าธรรมเนียมเมื่อศาลสั่งย้อนสำนวนไปให้ตัดสินใหม่ เงินค่าธรรมเนียมให้รวมใช้ในคราวหลัง พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.4 แก้มาก
ย่อยาว
ศาลเดิมตัดสินให้จำเลยใช้เงินตามสัญญากู้ ๔๗๐ บาท
ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำเลยใช้เงินเพียง ๕๐ บาท
โจทก์ฎีกาได้ทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์ ๔๗๐ บาท แต่ที่หลังสัญญากู้ซึ่งอยู่กับโจทก์ปรากฏว่า ” ได้ส่งเงินแล้ว ” เปนจำนวน ๕ ชั่ง ๒๐ บาทณะวัน…โดยไม่มีผู้ใดเซ็นชื่อ โจทก์จึงฟ้องขอให้ใช้เงิน ๔๗๐ บาท
ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องนี้ต้องใช้ประมวลแพ่งบรรพ ๓ ม.๖๕๓ พ.ศ.๒๔๖๗ ปรับคดี ซึ่งจำเลยมีโอกาศนำพะยานบุคคลมาสืบว่าได้ใช้เงินแล้วเท่าที่หลังสัญญา ศาลล่างไม่เรียกพะยานมาสืบ จึงย้อนสำนวนให้ศาลเดิมสืบพะยานตามโจทก์จำเลยอ้างมาและพิพากษาใหม่ ค่าธรรมเนียมชั้นนี้ให้รอไว้รวมกับคำพิพากษาใหม่