คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การรับสารภาพอย่างไรเรียกว่าจำนนต่อพะยานนั้น เปนข้อเท็จจริง
ลักษณพะยาน การรับสารภาพจำนนต่อพะยานหรือไม่ ๆ มีกฎหมายบัญญัติ ต้องอาศัยข้อเท็จจริงและเหตุผลในสำนวนเปนประมาณ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ม.๑๗๗ ฐานสมคบกันตั้งสมาคมอั้งยี่
ชั้นแรกจำเลยให้การปฏิเสธ ครั้นสืบพะยานโจทก์หมดแล้ว จำเลยขอให้การใหม่รับสารภาพ
ศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินว่า จำเลยมีผิดตาม ม.๑๗๗ ให้จำคุก ป.๓ ปี จำเลยอื่นคนละ ๒ ปี แต่จำเลยรับสารภาพลดโทษให้ตาม ม.๕๙ เสีย ๑ ใน ๓ คงจำคุก ป. ๒ ปี จำเลยอื่นคนละ ๑ ปี ๔ เดือน
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยไม่ควรได้รับความปราณีลดโทษ เพราะรับสารภาพโดยจำนนแก่พะยาน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การรับสารภาพอย่างไรเปนจำนนและไม่จำนน ไม่มีกฎหมายบัญญัติ ต้องอาศัยข้อเท็จจริง และเหตุผลในสำนวนเปนประมาณ เรื่องเช่นนี้อยู่ในดุลยพินิจของ และเปนข้อเท็จจริง ฉะนั้นคดีนี้โจทก์ฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามตาม ม.๓ แห่ง พรบ ฎีกาอุทธรณ์

Share