คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อข้อความที่โจทก์หาว่าจำเลยฟ้องเท็จไม่มีลักษณเป็นคำฟ้องโดยไม่ได้ระบุข้อความอันเป็นองค์แห่งความผิดให้ครบถ้วน ตาม ประมวล กฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) นั้น การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานฟ้องเท็จ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำฟ้องเท็จยื่นต่อศาลกล่าวหาโจทก์ซึ่งข้อความที่จำเลยกล่าวหานี้เป็นความเท็จและจำเลยรู้อยู่แล้ว
จำเลยให้การว่าฟ้องของจำเลยที่กล่าวหาโจทก์ในเรื่องก่อนศาลวินิจฉัยว่าเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องด้วยประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘ ให้ยกฟ้อง เช่นนี้เท่ากับฟ้องของจำเลยยังไม่ได้เกิดขึ้น โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง โจทก์ โดยยกเหตุผลขึ้น วินิจฉัยดังข้อต่อสู้ของจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องของจำเลยได้เนื้อความชัดเจนว่า จำเลยได้ฟ้องกล่าวโทษโจทก์ว่ากระไรบ้างเป็นฟ้องที่ต้องด้วยลักษณอันจะเป็นความผิดฐานฟ้องเท็จตาม กฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๕๘ ได้ จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ย้อนสำนวนไปพิจารณาใหม่
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อข้อความที่จำเลยกล่าวหาโจทก์ในคดีก่อนไม่มีลักษณเป็นคำฟ้องกล่าวโทษโดยไม่ได้ระบุข้อความผิดให้ครบถ้วนดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘(๕) การกระทำของจำเลยก็ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๕๘ อันเป็นความผิดฐานฟ้องเท็จจึงพิพากษากลับให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฟ้องโจทก์

Share